ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ระบุแนวโน้มการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคตต้องครอบคลุมหลายประเด็นมากกว่าเพียงที่อยู่อาศัยอย่างเดียวโดดๆ โดยออกแบบใช้ประโยชน์ร่วมกันหลายอย่าง เป็นโครงการที่มีลักษณะเฉพาะกลุ่มลูกค้า ใช้การออกแบบสำหรับทุกเพศทุกวัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในอนาคตว่า รูปแบบจะไม่เน้นเฉพาะที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต หากยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ เป็นโครงการที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้หลายอย่าง (Mixed Use) นอกจากที่อยู่อาศัยแล้ว ยังต้องมีศูนย์ออกกำลังกาย ลานเปตอง สำหรับคนในชุมชนได้ออกกำลังกายท่ามกลางกระแสการออกกำลังกายที่มากขึ้นตามลำดับ ศูนย์การค้าลักษณะคอมมูนิตี้ มอลล์ สำหรับซื้อขายสินค้าแทนเดินทางออกไปข้างนอก เป็นต้น “โดยเฉพาะโครงการของการเคหะฯ เรามีพื้นที่ส่วนกลางมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว สามารถนำมาใช้ประโยชน์ร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นด้วย” มีลักษณะโครงการที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าจำเพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น โครงการบ้านข้าราชการ บ้านผู้สูงอายุ เป็นต้น “อย่างโครงการของการเคหะแห่งชาติเอง เดิมทีเคยตั้งชื่อครอบคลุมกลุ่มลูกค้าไว้กว้างๆ ก็อาจปรับเปลี่ยนเป็นชื่อโครงการที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้ง่ายและเป็นผลดีต่อการขายด้วย” ดร.ธัชพล กล่าวว่า อีกประการหนึ่งการออกแบบโครงการต้องสอดคล้องสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัย (Universal Design) เช่น ทางลาดสำหรับรถเข็น ราวจับในห้องน้ำ ประตูห้องน้ำ กระทั่งภายในลิฟท์โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยมากที่สุด นอกจากนั้น ยังต้องเป็นโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากพื้นที่สีเขียวในโครงการแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน การใช้วัสดุป้องกันไฟไหม้ เป็นต้น “แม้กระทั่งระบบการเงินที่อยู่อาศัยเองก็อาจเปลี่ยนแปลง เช่นเดิมทีกู้จากธนาคารเพียงแหล่งเดียว ต่อไปอาจมีหน่วยงานใหม่เพิ่มเติม เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น”