วันนี้ (18 ก.ค.60) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์พายุโซนร้อน “ตาลัส” เคลื่อนตัวผ่านประเทศไทยตอนบน ส่งผลทำให้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของประเทศไทย มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ซึ่งกรมฝนหลวงฯ ได้สนับสนุนข้อมูลเรดาร์ตรวจวัดกลุ่มฝนในการเฝ้าระวัง ติดตามสภาพอากาศและเตือนภัย เพื่อเป็นข้อมูลในการรับมือและวางแผนการจัดการน้ำให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชน และเกษตรกร ซึ่งข้อมูลจากเรดาร์ตรวจวัดกลุ่มฝนจะแสดงบริเวณพื้นที่มีฝนตก รวมทั้งทิศทางและความเร็วในการเคลื่อนตัวของกลุ่มฝนนั้นๆ จะช่วยในการเตือนภัยและเตรียมการป้องกันน้ำท่วม โดยสถานีเรดาร์ฝนหลวงตั้งอยู่ 5 สถานี ได้แก่ สถานีเรดาร์ฝนหลวงอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่, สถานีเรดาร์ฝนหลวงพิมาย จังหวัดนครราชสีมา, สถานีเรดาร์ฝนหลวงตาคลี จังหวัดนครสวรรค์, สถานีเรดาร์ฝนหลวงสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และสถานีเรดาร์พนม จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยสนับสนุนข้อมูลครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมฝนหลวงฯ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงให้สอดคล้องกับพื้นที่การเกษตรที่ยังคงมีความต้องการน้ำฝน และเน้นเติมน้ำให้กับเขื่อนรวม 11 เขื่อน ที่ยังคงมีน้ำปริมาณเก็บกักน้อย ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนลำตะคอง เขื่อนศรีนครินทร์ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด อ่างเก็บน้ำพระปรง เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนปราณบุรี เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนสิริกิติ์ ทั้งนี้ การขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง เพี่อไม่ให้ส่งผลกระทบและความเดือดร้อนแก่ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ นายสุรสีห์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกรมฝนหลวงฯ จะสนับสนุนข้อมูลในการติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ เฝ้าระวังและเตือนภัย ซึ่งผู้สนใจและประชาชนสามารถติดตามข้อมูลเรดาร์ฝนหลวงได้ที่เว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร