เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ก.ค.60 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลัง พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ คุมตัว นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ พร้อมสำนวน มาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการพิเศษคดีพิเศษ 4 เพื่อมีความเห็นทางคดี โดยระบุว่า หลังจากรับตัวนายวิรพลมาแล้ว อัยการได้ตรวจพยานหลักฐานการแสดงตัวว่าเป็นบุคคลตามที่ดีเอสไอส่งตัวมาเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ และตรวจสอบคำให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งทั้ง 2 คดี คือ คดีพิเศษ ที่ 186/2556 ข้อหา พรากผู้เยาว์ , กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ฯ และคดีพิเศษที่ 151/2556 ข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฐานฟอกเงิน โดยนายวิรพลให้การปฏิเสธและจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งอัยการได้ตรวจสำนวนคำร้องของพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ แล้ว ได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรพล ทั้ง 2 สำนวน รวม 5 ข้อหา สำหรับข้อหา อนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และ พาเด็กไปเพื่อการอนาจาร นั้น คดีนี้เกิดขึ้นเมื้อช่วงปี 2543-2544 ทำให้คดีนี้ ขาดอายุความไปแล้ว อัยการจึงยุติการดำเนินคดี ส่วนข้อหาฉ้อโกงประชาชน นั้น ตามกฎหมาย กำหนดให้อัยหารร้องขอเงินคืนให้กับผู้เสียหาย เมื่ออัยการฟ้องนายวิรพล ในข้อหานี้ อัยการจึงระบุในคำฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ นานวิรพล คืนเงินกว่า 28.6 ล้านบาท แก่ผู้เสียหายรวม 29 ราย ด้วย ทั้งนี้อัยการ จะนำตัว นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในวันนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า หวั่นจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี