"ปภ."เผย น้ำท่วม 7 จังหวัดลดลง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย –เฝ้าระวังฝนตกหนัก วันที่ 30 ส.ค. 59 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 27 – 29 ส.ค. ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 7 จังหวัด 9 อำเภอ 20 ตำบล ได้แก่ จ.ลำพูน จ.ขอนแก่น จ.ลพบุรี จ.นครราชสีมา จ.สระบุรี จ.กำแพงเพชร และจ.อุทัยธานี โดยจ.ลำพูน มีน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ประชาชนได้รับผลกระทบ 4 หลังคาเรือน จ.ขอนแก่น เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น โดยน้ำท่วมถนนหลายสาย และถนนมิตรภาพทั้งขาขึ้นขาล่อง ขณะที่จ.ลพบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล ได้แก่ อ.เมืองลพบุรี อ.โคกสำโรง และอ.ลำสนธิ นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า จ.นครราชสีมา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.พิมาย รวม 2 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 50 หลังคาเรือน จ.สระบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมอ.พระพุทธบาท รวม 6 ตำบล จ.กำแพงเพชร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี รวม 3 หมู่บ้าน ระดับน้ำทรงตัว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน จ.อุทัยธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.สว่างอารมณ์ รวม 3 ตำบล ได้แก่ ต.บ่อยาง ต.หลวงสองนาง และต.ไผ่เขียว บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 25 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 8,880 ไร่ คันคลองข่อยเป้าถูกน้ำซัดเสียหายกว้าง 6 เมตร ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 7 จังหวัด เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ โดยระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นจ.กำแพงเพชรที่ระดับน้ำยังทรงตัว ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ รวมถึงดำเนินการซ่อมแซมถนนและสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ระยะนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกสะสม ส่งผลให้พื้นดินชุ่มน้ำ จึงเพิ่มความสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย และดินถล่ม ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ศูนย์ฯ เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 76 จังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา 30 สาขาใน 16 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป