เมื่อวันเสาร์ ที่ 22 กรกฎาคม 2560 ที่โรงเรียนบ้านเขาหิน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้ร่วมงานประกอบด้วยคณะครู และนักเรียนจากโรงเรียนบ้านพันเสด็จ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยชลบุรี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาหิน องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อวิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ชุมชนรอบ ๆ บริเวณ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจในสังกัดภูธรจังหวัดชลบุรี รวม 22 สถานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และคณะที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมกว่า 700 คน ปลูกกล้าไม้ทั้งสิ้นกว่า 1,500 ต้น ในพื้นที่โรงเรียนบ้านเขาหิน หมู่ที่ 6 และบริเวณริมห้วยตะผัน หมู่ 4 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล และของศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ตามมาตรการฟื้นฟูควบคู่กับการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งมีตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้อนุมัติโครงการ “ต้นกล้าจิตอาสา พลิกฟื้นคืนผืนป่าสู่แผ่นดิน” และให้ตำรวจทั่วประเทศนำไปต่อยอดดำเนินการเพื่อเพิ่มต้นไม้และพื้นที่ป่าให้มากขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ตามเป้าหมายของรัฐบาล ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จึงได้ร่วมกับคณะที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ องค์การบริหาร
ส่วนตำบลบ่อวินคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาหินและโรงเรียนใกล้เคียง ฝ่ายปกครอง ชาวบ้าน ชุมชน บริเวณใกล้เคียง
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า การจัดทำโครงการ “ต้นกล้าจิตอาสา พลิกฟื้นคืนผืนป่าสู่แผ่นดิน” ขึ้น ที่โรงเรียนบ้านเขาหิน (นิกร ราษฎร์บำรุง) ม.6 และริมห้วยตะผัน หมู่ 4 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี เพื่อปลูกจิตสำนึก สร้างการเรียนรู้และเสริมความเข้าใจให้หน่วยงานราชการ นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ได้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ เป็นฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ที่เสื่อมโทรม หรือถูกทำลาย ให้มีความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาและกระตุ้นปลูกจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วน นักเรียนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และประชาชนทั่วไป เกิดความ หวงแหนทรัพยากรป่าไม้ของชาติ และสอดคล้องกับนโยบาย “ประชารัฐ” ของรัฐบาล
ซึ่งโครงการนี้ มีคุณสุทิน บัวตูม อนุกรรมการด้านข่าวกรองเพื่อต่อต้านการทุจริต ปปช. และคุณสมเกียรติ ละเลิศ ที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นภาคประชาชนในพื้นที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรม และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในพื้นที่ อีกจำนวน 30,000 บาทด้วย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล และของศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ตามมาตรการฟื้นฟูควบคู่กับการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งมีตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้อนุมัติโครงการ “ต้นกล้าจิตอาสา พลิกฟื้นคืนผืนป่าสู่แผ่นดิน” และให้ตำรวจทั่วประเทศนำไปต่อยอดดำเนินการเพื่อเพิ่มต้นไม้และพื้นที่ป่าให้มากขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ตามเป้าหมายของรัฐบาล ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จึงได้ร่วมกับคณะที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ องค์การบริหาร
ส่วนตำบลบ่อวินคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาหินและโรงเรียนใกล้เคียง ฝ่ายปกครอง ชาวบ้าน ชุมชน บริเวณใกล้เคียง
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า การจัดทำโครงการ “ต้นกล้าจิตอาสา พลิกฟื้นคืนผืนป่าสู่แผ่นดิน” ขึ้น ที่โรงเรียนบ้านเขาหิน (นิกร ราษฎร์บำรุง) ม.6 และริมห้วยตะผัน หมู่ 4 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี เพื่อปลูกจิตสำนึก สร้างการเรียนรู้และเสริมความเข้าใจให้หน่วยงานราชการ นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ได้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ เป็นฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ที่เสื่อมโทรม หรือถูกทำลาย ให้มีความอุดมสมบูรณ์กลับคืนมาและกระตุ้นปลูกจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วน นักเรียนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และประชาชนทั่วไป เกิดความ หวงแหนทรัพยากรป่าไม้ของชาติ และสอดคล้องกับนโยบาย “ประชารัฐ” ของรัฐบาล
ซึ่งโครงการนี้ มีคุณสุทิน บัวตูม อนุกรรมการด้านข่าวกรองเพื่อต่อต้านการทุจริต ปปช. และคุณสมเกียรติ ละเลิศ ที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นภาคประชาชนในพื้นที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรม และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในพื้นที่ อีกจำนวน 30,000 บาทด้วย