รอง ผบช.น.มอบนโยบายการขับเคลื่อนการป้องกันปราบปราม การจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เผยผลการปฏิบัติตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ 33 คดี พร้อมกำชับหากพื้นที่ใดไม่มีผลการจับกุม โทษย้ายเข้ามาช่วยราชการ ศปก.บชน. 30 วัน เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 ก.ค.60 ที่ ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) พลตำรวจตรี สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. ในฐานนะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ( ผอ.ศพดส.บชน.) ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงาน อาทิ บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ บก.สปพ. เจ้าหน้าที่ กก.ดส. และเจ้าหน้าที่ในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อมอบนโยบายในการขับเคลื่อนการป้องกันปราบปราม การจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ของ บชน. ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดย พลตำรวจตรีสมพงษ์ ได้แถลงผลการระดมกวาดล้างการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ถึงปัจจุบัน สามรถจับผู้กระทำผิดในคดีค้ามนุษย์ ส่งดำเนินคดีได้ รวม 33 คดี โดยเฉลี่ยกับปีที่ผ่านมานั้นใกล้เคยกัน โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม สามารถผู้กระทำผิดได้รวม 12 คดี ผู้ต้องหา 13 ราย แบ่งเป็น บก.สส. บช.น. 4 ราย สน.ห้วยขวาง 2 ราย สน.ดินแดง 1 ราย สน.มีนบุรี 1 ราย สน.คลองตัน 1 ราย สน.บางรัก 2 ราย และสน.ราษฎร์บูรณะ 2 ราย นอกจากนี้ยังจับกุมเตร็ดเตร่ ค้าประเวณี 8 ราย รวมทั้งจัดระเบียบคนไร้บ้านและขอทาน 29 ราย นอกจากนี้พลตำรวจตรีสมพงษ์ ยังได้กำชับให้พื้นที่ใดที่ยังไม่มีผลการจับกุมหากมีหน่วยนอกพื้นที่เข้าไปจับกุมจะดำเนินการทางปกครองและย้ายเข้ามาช่วยราชการในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นเวลา 30 วัน นอกจากยังได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ติดตามจับกุมนายประเสริฐ สุขขี เจ้าของนาตารีอาบอบนวด ที่ถูกฝ่ายปกครองเข้าจับกุมลักลอบค้าประเวณี และหลบหนีหมายจับอยู่ซึ่งการข่าวทราบว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ มาดำเนินคดี โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำเนินการปราบปราบการค้ามนุษย์ เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทย ถูกจัดอันดับการค้ามนุษย์จากอันดับเทียร์ 3 มาเป็น เทียร์ 2 ที่ต้องเฝ้าระวัง