ประชาชนกว่า 100 คน ร้อง ดีเอสไอ เอาผิด 8 บริษัทแชร์ลูกโซ่ หลอกตุ๋นผู้เสียหาย มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท แอบอ้างฌาปนกิจสงเคราะห์ วันที่ 30 ส.ค.59 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย พร้อม ผู้เสียหายคดีแชร์ลูกโซ่ ประมาณ 100 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดีแชร์ลูกโซ่ที่ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว จำนวน 8 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมี นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง นายสามารถ กล่าวว่า วันนี้พาตัวแทนผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่ทั้ง 8 คดี ประกอบด้วย 1. บริษัท เค. เอส. มารีน จำกัด และบริษัท ฟีนิกซ์ จำกัด 2. บริษัท ดิจิตอล คราวน์ โฮลดิ้ง จำกัด 3.บริษัท สยามแกรนด์เดอร์ จำกัด และ บริษัท โกลบอลวิลล์ คอนซัลติ้ง จำกัด 4. บริษัท ไนน์ ท็อป อัพ จำกัด 5. สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์พลังเครือข่ายประชาชน และหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง 6.บริษัท พีเอ็มบี เพกาซัส (ไทยแลนด์) จำกัด และ Pegasus Bullion Company Limited 7.บริษัท ดีที เทนเทน (ประเทศไทย) จำกัด และ 8.คดีวิสาหกิจชุมชนกลุ่มโพธิ์ทองผลิตไม้กฤษณาแอบอ้างฌาปนกิจสงเคราะห์ เนื่องด้วยทางสมาพันธ์ฯ ได้ส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานและรายชื่อผู้เสียหายที่เดือดร้อนจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนจนรับเป็นคดีพิเศษไปแล้วนั้นแต่ที่ผ่านมาผู้เสียหายรู้สึกว่าคดีมีความล่าช้าจึงเกิดความกังวลและอยากเรียนสอบถามความคืบหน้าของแต่ละคดี นายสามารถ กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความกับ ดีเอสไอ แต่ยังติดขัดหลายประการ อีกทั้งบางคดีใช้เวลานานเป็นปีแต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากครั้งแรก ผู้เสียหายเพียงไม่กี่รายจนกระทั่งขณะนี้มีมากกว่าหมื่นราย จึงเกิดความสงสัยในความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ แสดงถึงความไม่เป็นธรรมและอาจส่งผลถึงผู้เสียหายผันตัวเองเป็นมิจฉาชีพก็ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้เจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างจริงจังเพราการหลอกคนอื่นสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้าน นายปิยะศิริ เปิดเผยว่า เป็นตัวแทนมารับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวจากผู้เสียหายทั้งสิ้น 8 คดี ซึ่งบางคดีเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดทรัพย์มาแล้วกว่า 5 ล้านบาท บางคดีออกหมายจับผู้ต้องหาไปบ้างแล้ว ทั้งนี้ ตามกฎหมายผู้กระทำผิดมีสิทธิ์สามารถประกันตัวออกมาสู้คดีได้อาจทำให้มีผู้ถูกหลอกเพิ่มเติมได้อีก จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนว่าอย่าได้ร่วมลงทุนกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่จะปลอดภัยที่สุด