เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เพจเฟซบุ๊กสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เผยแพร่ข้อความชี้แจงกรณีที่นายพุฒ อินตรา ประชาชนจ.กาญจนบุรี ได้ปีนต้นไม้ด้านหน้าศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ข้างทำเนียบฯเนื่องจากมีอาการเครียดที่ที่ดินถูกยึดและถูกขับไล่ออกจากที่ดินนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม สปน.ได้ติดตามความคืบหน้าล่าสุดได้รับความช่วยเหลือแล้ว โดยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม จ.กาญจนบุรีได้จัดประชุมหารือหาแนวทางให้ความช่วยเหลือ และได้เดินทางไปยังบ้านนายพุฒเพื่อสอบถามปัญหาต่างๆ ได้ชี้แจงขั้นตอนในการบังคับคดีให้เข้าใจ จากนั้นวันที่ 19 กรกฎาคมเจ้าหนี้ได้แถลงยอดหนี้ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ เพื่อประกอบการทำบัญชีแสดงรายการรับ - จ่ายเงิน และจากการขายทอดตลาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขณะนี้มีเงินเหลือคืนนายพุฒจำนวน 210,968.59 บาท ซึ่งในวันเดียวกันนี้ทางอธิบดีกรมบังคับคดี และรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร่วมดูแลการจ่ายเงินส่วนที่เหลือ ให้นายพุฒที่สำนักงานบังคับคดี จ.กาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานายพุฒได้ร้องเรียนผ่านทางสายด่วนของรัฐบาล 1111 กรณีได้นำที่ดิน เนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 16 ตารางวา ไปค้ำประกันเงินกู้ที่เป็นสินเชื่อในการเช่าซื้อรถยนต์ให้กับน้องภรรยา กับธนาคาร ทิสโก้ แต่ผู้ซื้อ (น้องภรรยา) กลับไม่ได้ชำระค่างวดตามระยะเวลาที่กำหนด จนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องร้องและบังคับยึดทรัพย์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นที่อาศัยอยู่ของผู้ค้ำประกัน (นายพุฒราคาประเมิน 542,065 บาท) โดยเรื่องนี้ สปน.ได้ประสานส่งเรื่องให้จ.กาญจนบุรีพิจารณาดำเนินการ ต่อมาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายพุฒได้เดินทางมาศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเดินทาง แต่นายพุฒได้เดินออกไปภายนอกอาคาร ปีนขึ้นต้นไม้ใช้ผ้าขาวม้าผูกกับกิ่งไม้พยายามจะผูกคอตายแต่ผ้าได้หลุดตกลงมาถูกกระถางต้นไม้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำนายพุฒส่งโรงพยาบาลวชิระ พร้อมประสานญาติให้มารับกลับ และในช่วงเย็นวันเดียวกันศูนย์บริการประชาชนได้ประสานให้นายพุฒพร้อมกับญาติได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรึกษาหารือและหาแนวทางให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น และจากการติดตามความคืบหน้าไปยังกรมบังคับคดีสรุปแนวทางการดำเนินการให้ความช่วยเหลือได้