นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าทาง กรธ.ไม่มีอะไรจะโต้แย้ง ดังนั้นหลังจากนี้นายกรัฐมนตรีซึ่งรับร่างกฎหมายไปแล้ว ก็ต้องรออีก 5 วันและคงส่งขึ้นทูลเกล้าฯได้เลยส่วนจะทันใช้กับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ตรงนี้ตนตอบไม่ได้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองมองว่าคดีที่เขาต้องต่อสู้นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้นเขาก็สามารถไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ทาง กรธ.คงจะไม่ไปทำความเข้าใจกับเขา เพราะว่าไม่ได้คุยกัน เมื่อถามถึงความเห็นว่ากรณีที่ศาลยุติธรรมเห็นว่าต้องมีการทบทวนเนื้อหาของ พ.ร.บ.ฯในเรื่องของระยะเวลาก่อนจะเริ่มดำเนินการพิจารณาคดีลับหลัง นายมีชัยกล่าวว่าทางศาลยุติธรรมเขาขอให้มีการเขียนรายละเอียดเพิ่มขึ้น ทาง กรธ.ก็ให้เขาเขียนมา เขาก็เขียนมาว่าหลังจากศาลออกหมายจับแล้ว 3 เดือน ถ้าจำเลยยังไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าศาล ศาลก็สามารถดำเนินการพิจารณาคดีลับหลังได้ ขอยืนยันว่า พ.ร.บ.ฯจะไม่มีผลย้อนหลังจนทำให้กระบวนการบวนการพิจารณาคดีที่ตัดสินไปแล้วมีความเปลี่ยนแปลงไป นายมีชัยกล่าวต่อว่ากล่าวต่อถึงเรื่องการประชุมกรรมาธิการวิสามัญ 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาปรับแก้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่าทาง กรธ.ได้ประสานกับทาง กรรมาธิการ (กมธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อยู่แล้วเพื่อปรับแก้เนื้อหาให้ตรงกับความประสงค์ของเจ้าของความคิด ทั้งนี้ตนขอเรียนว่าในเรื่องการทำไพรมารี่โหวต ทาง กรธ.ได้ระบุว่าการที่ทำผิดหรือไม่ได้ทำนั้นไม่ได้เป็นผลต่อการเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เป็นคนจัด แต่ว่าถ้า กกต.หรือสมาชิกพรรคพบว่ามีการกระทำความผิด เขาก็สามารถไปแจ้งตำรวจให้ดำเนินการได้ ถ้าหากพบว่า ส.ส.ผู้นั้นมีการทำผิดกฎหมาย เขาก็จะหลุดออกจากตำแหน่ง ถูกตัดสิทธิ วันข้างหน้าเขาก็จะสมัครเลือกตั้งไม่ได้และก็จะต้องเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้ขอเรียนว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อการนับคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนผสม ในสัดส่วนคะแนนของพรรคการเมือง เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.ได้ ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.นายมีชัยกล่าวว่าตนไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร ศาลจะรับหรือไม่รับพิจารณา เพราะในรัฐธรรมนูญ เขียนให้ส.ส.และส.ว.เท่านั้น ที่จะยื่นท้วงได้ ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ก็ระบุว่ารัฐบาลจะรอทางศาลรัฐธรรมนูญก่อน จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตนมองว่า นายกฯก็คงต้องรอเพื่อความปลอดภัย ซึ่งไม่น่าจะกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้ง เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญก็น่าจะรู้เรื่องกรอบเวลา