เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 ก.ค .60 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ,พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พร้อมทีมสืบสวนปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพ ได้สืบทราบว่า มีกลุ่มชาวต่างชาติชาวมาเลเซียและจีนไต้หวันต้องสงสัยจำนวนหลายคน ประมาณ 8-10 คน ไม่ซ้ำหน้ากัน ได้เช่าห้องพักในคอนโดหรูย่านสุขุมวิท โดยไม่ออกไปไหนเป็นเวลานาน มีพฤติกรรมในลักษณะแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ไปหลอกผู้ที่หลงเชื่อให้โอนเงินให้ ในลักษณะฉ้อโกงประชาชนด้วยวิธีการโทรศัพท์แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ล่อลวงให้ชาวมาเลเซียหลงเชื่อเพื่อโอนเงินให้กับกลุ่มผู้กระทำผิด อันเป็นการกระทำในลักษณะอาชญากรรม ข้ามชาติ ในรูปแบบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ จึงได้สืบสวนจนกระทั่งจับกุม ผู้ต้องหาได้ คือ ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหา คือ 1.) นาย SHIH CHING NAN อายุ 51 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน 2.) นาย LIU TZIN WEI อายุ 18 ปี สัญชาติมาเลเซีย3.) นาย ISMEN ONG KHAI ZHENG อายุ 27 ปี สัญชาติมาเลเซีย4.) น.ส. HONG CHOY YEE อายุ 37 ปี สัญชาติมาเลเซีย5.) น.ส.TEOH AI CHIA อายุ 36 ปี สัญชาติมาเลเซีย6.) นาย WONG CHIN FONG อายุ 33 ปี สัญชาติมาเลเซีย7.) นาย YONG KAI LOONG อายุ 36 ปี สัญชาติมาเลเซีย8.) นาย LEE CHEE SENG อายุ 29 ปี สัญชาติมาเลเซีย9.)นาย WOON TEK KEAN อายุ 27 ปี สัญชาติมาเลเซีย รวม 9 คนได้ตรวจยึดพยานหลักฐานที่ใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหาย1. คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 7 เครื่อง2. เราท์เตอร์ยี่ห้อ TP-LINK ชนิดใส่ซิมส์การ์ด พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง จำนวน 7 เครื่อง3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 35 เครื่อง 4. ลำโพงพร้อมเสียง สำหรับสร้างบรรยากาศคล้ายสถานที่ติดต่อราชการ จำนวน 1 ชุด 5. เอกสารข้อมูลธนาคาร หน่วยงานราชการ เศษคีย์บอร์ดเปล่า และไมโครโฟน จำนวน 7 ชุด 6. สคริปต์บทสนทนา สำหรับใช้หลอกลวงผู้เสียหาย จำนวน 7 ชุดสถานที่จับกุม คอนโดหรูบริเวณซอยสุขุมวิท 8 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 15.30 น. ส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขึ้นบัญชีดำ เพิกถอนวีซ่า และประสานงานสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ให้ตรวจสอบข้อมูลผู้เสียหาย และรับมอบตัวผู้ต้องหาทั้งหมด กลับไปดำเนินคดี การกระทำผิดในครั้งนี้มีพฤติการณ์การกระทำผิดคล้ายกันกับที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นแบบแผน ประทุษกรรมการหลอกลวงคล้ายกัน ผู้ต้องหาทั้งหมดที่อยู่ในห้อง ให้การว่ามีหน้าที่ในการใช้สายโทรศัพท์ออนไลน์ ผ่านอินเตอร์เน็ต ต่อผ่านเราท์เตอร์ซึ่งเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตด้วยซิมการ์ด โทรศัพท์ออนไลน์ข้ามประเทศไป หาชาวต่างชาติ ที่ประเทศมาเลเซีย ข่มขู่และสมอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของราชการประเทศนั้นๆ แจ้งให้เหยื่อทราบว่ามีความเกี่ยวพันกับคดีอาญา ยาเสพติด คดีการฟอกเงิน เพื่อกรรโชกเอาข้อมูลส่วนบุคคล จากนั้นจะ หลอกให้เหยื่อไปโอนเงินเพื่อชำระเงินค่าธรรมเนียม หรือค่าเสียหาย หรือภาษีที่เกิดขึ้น เพื่อให้หลุดพ้นจากคดีความ โดย นาย SHIH CHING NAN อายุ 51 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน เป็นหัวหน้าทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของทีมงานแต่ละโต๊ะ และขณะที่ลูกทีมใช้ไมโครโฟนพูดอยู่กับเหยื่อเพื่อพูดล่อลวง ก็ยังมีการเปิดเสียงสร้างบรรยากาศการทำงาน หลอกลวงคล้ายออฟฟิศของทางราชการ เพื่อเหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นหน่วยงานราชการที่ติดต่อไปจริง มีการโอนสายไป มา สมอ้างกันเป็นองค์กร แยกเป็นแผนกต่างๆมีหน้าที่แตกต่างกันในการข่มขู่กรรโชก และหลอกลวงเอาข้อมูล หรือการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่ได้เตรียมไว้ผ่านทางการทำธุรกรรมหน้าตู้ ATM หรือวิธีการคล้ายกันที่ตู้ฝากเงินสด ในลักษณะแก๊งค์คอลล์เซนเตอร์ หรือการหลอกลวงแบบ ATM Game อันเป็นภัยต่อความมั่นคงด้าน เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ กลุ่มชาวต่างด้าวตามรายชื่อดังกล่าวข้างต้น มีรายได้จากการดำเนิน กิจกรรมดังกล่าวประมาณเดือนละประมาณ 20,000,000 บาท (ยอดรายได้วันที่ 1-23 เดือน กรกฎาคม 2560 อยู่ที่ประมาณ 12,000,000 บาท) ตรวจสอบพบว่า น.ส. HONG CHOY YEE อายุ 37 ปี สัญชาติมาเลเซีย เป็นผู้เช่าห้องคอนโดหรูดังกล่าว ในราคาเดือนละ 75,000 บาท ทำสัญญาเช่า 1 ปี เหตุที่เลือกเช่าคอนโดหรูราคาแพงเนื่องจากส่วนมาก นิติบุคคล คอนโดหรูราคาแพงมักจะปกป้องลูกบ้านไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีการดัดแปลงสภาพ ห้องให้เข้าถึงยาก ติดแผ่นซับเสียง ติดฟิล์มมืด ติดกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าผู้ใดจะเข้ามาในห้อง เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจ ค้นจับกุมจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย