ตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี รวบผู้ต้องหางัดตู้บริจาคอนุสรณ์สถานอู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้แล้ว ขณะที่ผุ้ต้องหาอ้างทำไปเพราะขาดสติ เนื่องจากเสพยาก่อนก่อเหตุ เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 ส.ค.59 หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าของวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้เดินทางไปตรวจสอบยังมูลนิธิอนุสรณ์สถานอู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บ้านเสม็ดงาม หลังจากได้รับแจ้งว่ามีคนร้าย เข้ามางัดตู้รับบริจาคเงินที่ตั้งอยู่บนอนุสรณ์สถานฯ แล้วนำถังใส่เงินไปซุกซ่อนไว้ใต้โต๊ะรูปปั้นหลวงพ่อเขียน ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นชายรูปร่างท้วมแต่งกายคล้ายพ่อค้า โดยใส่เสื้อเเขนสั้นสีเทา กางเกงขายาวสีดำ ใส่เอี๊ยมสีเขียว ใส่หมวกสีน้ำเงิน อายุประมาณ 40-45 ปี เข้าทำการก่อเหตุ โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็เดินออกไปพร้อมด้วยเงินที่ประชาชนบริจาคใส่ถังไว้ ล่าสุดวันนี้เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ก็ได้ทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุจากบ้านพัก มาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยของกลาง ธนบัตรใบละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ ธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 6 ใบ เหรียญ 1 บาท และ 2 บาท รวม 34 บาท หนังสติ๊ก 1 อัน และก่อนหินอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด และโทรศัพท์มือถืออีก จำนวน 2 เครื่อง ทราบชื่อผู้ต้องหา คือ นายเฉลิม สีบุญเพ็ง อายุ 49 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 34 ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี นายเฉลิม สีบุญเพ็ง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า วันที่ก่อเหตุ คือวันที่ 28 สิงหาคม 2559 ตนได้ออกจากบ้าน และเดินเท้าไปยังอู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บ้านเสม็ดงาม ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางมีการหยุดพักเสพยาบ้าง และนั่งพักเหนื่อยบ้าง จนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ก็เดินทางไปถึง และได้ขึ้นไปก่อเหตุดังกล่าว เมื่อก่อเหตุเสร็จระหว่างเดินกลับบ้านก็ทำการนับเงินที่ได้มา เป็นจำนวน 980 บาท และกลับมาพักที่บ้านตามปกติ จนกระทั่งตำรวจตามไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว นายเฉลิม ยังบอกด้วยว่า เมื่อก่อนมีอาชีพรับเข็นผัก แต่มีอาการปวดขาจึงหยุดทำงาน โดยขอเงินจากภรรยาใช้เพียงอย่างเดียว ส่วนเงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และส่วนตัวก็เคยก่อเหตุลักทรัพย์น้องสาวภรรยาแล้ว 1 ครั้ง และโดนจับคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้ ส่วนครั้งนี้ที่ทำลงไป นายเฉลิม อ้างว่าน่าจะขาดสติ เนื่องจากตนได้ทำการเสพยาไปก่อนก่อเหตุ ส่วนโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 เครื่องที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมานั้น ก็ได้ขโมยมาจากศาลเจ้าแหลมสิงห์ โดยอ้างว่าไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ เห็นโทรศัพท์วางไว้เลยหยิบกลับมาบ้านมา