วันที่ 30 ส.ค.59 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวเปิดเผยถึงการเยือนประเทศมาเลเซีย ร่วมกับคณะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่าได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงของประเทศมาเลเซีย และเรื่องความร่วมมือเกี่ยวกับการติดตามผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน และข้อมูลบุคคลต้องสงสัยที่ก่อเหตุ รวมทั้งแหล่งซื้อซิมและอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนจะมีการออกหมายจับเพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่ง พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุมและรับผิดชอบคดีนี้ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่า การพูดคุยกับทางการมาเลเซียได้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับบุคคลต้องสงสัย ที่ซื้อซิมและอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ยังไม่สามารถยืนยันว่าเป็นบุคคลสัญชาติใด ซึ่งข้อมูลในขณะนี้ เชื่อมั่นว่าสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย และเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายได้ และคนร้ายที่นำเข้าซิมโทรศัพท์มือถือ เข้ามาใช้ก่อเหตุ ยังไม่ยืนยันว่านำเข้าผ่านทางช่องทางใด นอกจากจากนี้ได้เชิญบุคคลต้องสงสัยมาซักถามในพื้นที่จังหวัดตรัง และต้องรอข้อมูลจากฝ่ายทหารอีกครั้ง สำหรับการออกหมายจับ นายอัสมีน กาเต็มมาดี ชาวปัตตานี ผู้ต้องหารายล่าสุด ในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ยืนยันว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่แม้จะมีหมายจับในคดีก่อเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลสมุย เมื่อปี 2558 ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย ที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดพร้อม นายรุสลัน ไบมะ และ นายอัสมีน ผู้ต้องหาตามหมายจับ เหตุระเบิดที่หัวหิน ซึ่งขณะนี้ทราบชื่อแล้ว ยังไม่ขอเปิดเผยถ้าพยานหลักฐานเพียงพอก็จะขอหมายอนุมัติจับทันที