13 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ผนึกกำลังครั้งประวัติศาสตร์ กับโครงการ "มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่มา" มีผู้บริจาคหลังจากเปิดโครงการกว่า 20 วัน มียอดรวมประมาณ 420,000 เครื่อง หลังจากที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับโครงการนำร่องเพื่อนำไปสู่ การรีไซเคิลขยะอิเลคทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับโครงการ "มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่มา " ด้วยแรงพลักดันจากสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมควบคุมมลพิษ โดยมีนายสุวรรณ นันทศรุต รองอธิบดี กรมควบคุมมลพิษ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ ร่วมกับผู้แทนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กสทช. กรุงเทพมหานคร ไปรษณีย์ไทย ณ อาคารจามจุรีสแควร์ เมื่อต้นเดือน ก.ค. ผ่านมา ในโครงการ "มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่" รณรงค์ให้มีการบริจาคมือถือเก่าที่เลิกใช้งาน ทุกสภาพ ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ เพราะ มือถือเก่า = ขยะอิเลกทรอนิกส์ โดยมีกำหนดระยะเวลารับบริจาค ตั้งแต่วันที่ 7 /7/ 60 – 7 /12/ 60 รวมทั้งสิ้นเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งเป้าหมายการบริจาคมือถือเก่าจากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 9,999,999 เครื่อง เพื่อมอบรายได้จากการรีไซเคิลทั้งหมดให้กับองค์กรการกุศลเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ คาดว่าจะมีรายได้จากการรีไซเคิลในโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท โดยประชาชนทั่วไปสามารถบริจาคมือถือเก่าได้ที่บุรุษไปรษณีย์ทุกคนและที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาชาทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยงานสถานที่ราชการที่เข้าร่วมกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาลและสถานีอนามัยทั่วประเทศ โรงเรียนประถมฯ และมัธยมฯ ทั่วประเทศ ศาลากลางจังหวัด และสำนักงานเทศบาลทั่วประเทศ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตทุกเขต นับได้ว่าเป็นความร่วมมือเพื่อช่วยกันรักษาสภาวะแวดล้อมครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย สำหรับความคืบหน้าที่ โครงการดังกล่าวเมื่อวันที่29กค หลังจากที่ได้เปิดโครงการ "มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่มา" ได้มากว่า 20 วัน น.ส สายฝน อภิธนัง ตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดโครงการ "มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่มา" อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาไปแล้วนั้นพบว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เข้ารับผิดชอบการขนส่งโทรศัพท์เก่าผ่านบุรุษไปรษณีย์กว่า 13,000 คน และกล่องรับบริจาคมือถือเก่าในที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศกว่า 1,400 สาขา มีผู้บริจาคยอดรวมประมาณ 420,000 เครื่อง และยังมีผู้ประสงค์ร่วมบริจาคทั้งแบบบุคคลและองค์กรบริษัท ห้างร้านฯ อีกเป็นจำนวนมากทยอยร่วมบริจาคอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเมื่อถึงกำหนดปิดโครงการอีกเกือบ 5 เดือนนั้น จะสามารถได้รับบริจาคมือถือเก่าตามเป้าหมาย 9,999,999 เครื่องอย่างแน่นอนซึ่งจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่ามีมือถือเก่าตกค้างอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 200 ล้านเครื่องเลยทีเดียว โดยหลังจากปิดโครงการแล้ว คณะทำงานโครงการฯจะนำโทรศัพท์มือถือเก่าทั้งหมดไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี ได้มาตรฐานสากล ไม่มีมลพิษ เพื่อสกัดเอาแร่ธาตุต่างๆที่อยู่ในโทรศัพท์ เช่น 1.ทองคำ 2.เงิน 3.ทองแดง 4.ทองเหลือง 5.ตะกั่วอิเลคทรอนิกส์ 6.อลูมิเนียม 7.พลาสติก 8.แร่ธาตุหายากอีกหลายชนิดไปใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อทดแทนการ 1.ตัดไม้ทำลายป่า 2.ขุดตักหน้าดินเปลือกโลกหาแร่ธาตุ 3.สร้างสภาวะโลกร้อนจากการผลิตสินค้าอย่างฟุ่มเฟือย 4.ลดก๊าซคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ 5.ลดมลภาวะเป็นพิษจากการกำจัดขยะอิเลคทรอนิคส์ที่กำลังเป็นปัญหาในระดับโลก แล้วจะนำรายได้ที่ได้จากการรีไซเคิลในโครงการนี้มอบให้องค์กรการกุศลที่เกี่ยวกับสังคมและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 30 แห่ง โดยขณะนี้คณะทำงานอยู่ในระหว่างการคัดเลือกองค์กรที่มีสิทธ์จะได้รับเงินบริจาคนี้ ผ่านกิจกรรมต่างๆของโครงการนี้ที่จะออกมาเป็นระยะตลอดเวลาการดำเนินโครงการ ติดตามกิจกรรมต่างๆได้ทางเฟสบุ๊ค และจะประกาศรายชื่อองค์กรพร้อมจำนวนยอดบริจาคที่ได้รับการคัดเลือกเมื่อครบกำหนดปิดโครงการในวันที่ 7/12/60 ผ่านตามสื่อต่างๆ ต่อไป นอกจากนี้โครงการ "มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่มา" จะร่วมออกแสดงกิจกรรมครั้งใหญ่ที่งาน Mobile Expro ณ ศูนย์ศิริกิต ในระหว่างวันที่ 28,29,30 ก.ย.และ 1 ต.ค. ภายในงานจะมีกิจกรรมร่วมสนุกแปลกใหม่ที่ได้ประโยชน์กับสิ่งแวดล้อม การให้ความรู้ด้านการจัดการขยะอิเลคทรอนิกส์โดยเฉพาะขยะมือถือเก่า และพบกับ Presenter ของโครงการที่เป็นดารานักแสดงชื่อดังหลายท่านที่มีใจรักสิ่งแวดล้อมติดตามรายละเอียดและกิจกรรมต่างๆของโครงการฯได้ที่ Facebook: มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่มา IG , LINE : มือถือเก่าไป ชีวิตใหม่มา