บิ๊กตู่ เปิดซูคอยซุปเปอร์เจ็ตเข้าประจำการทางการ แจงคุณสมบัติครบครัน-ทนทาน ยกเป็นแบบอย่างกระทรวงวางแนวทางจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 31 ส.ค.59 ที่บริเวณท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีบรรจุเข้าประจำการเครื่องบินลำเลียง แบบ 18 (Sukhoi Superjet 100LR) หรือ ซูคอย ซุปเปอร์เจ็ต ว่า วัตถุประสงค์หลักของเครื่องบินลำเลียงดังกล่าวเป็นเครื่องบินเอนกประสงค์ ไม่ใช่เครื่องบินรบ แต่สนับสนุนการรบด้านการบรรเทาภัยพิบัติ ขนส่ง พยาบาล ฯลฯ หากไม่มีเหตุการณ์สำคัญสามารถใช้รับ-ส่งบุคคลสำคัญได้ด้วย โดยเครื่องบินมีความน่าเชื่อถือ เรียบร้อย แข็งแรง และผ่านมาตรฐานที่เรากำหนด นโยบายแต่ละกองทัพนั้นมีอยู่แล้ว หากเราไม่จัดหาวันนี้วันหน้าจะแพงขึ้น ถ้าไม่จัดซื้อจะมีเครื่องบินไม่เพียงพอในการขนส่ง อย่าไปเน้นบุคคลสำคัญ หรืองานของกลาโหมอย่างเดียว แต่เป็นการทำเพื่อประชาชน อีกทั้งเวลาเพื่อนบ้านเกิดปัญหาสามารถมีเครื่องบินไปช่วยได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่นักบินก็ได้รับการฝึกทั้งในประเทศและต่างประเทศตามกฎของการเดินอากาศด้วย นายกฯ กล่าวต่อว่า การจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพ มี 3 ระดับ โดยในระยะยาวต้องดูและวางแผนอุปกรณ์ใดขาด เก่า ชำรุด และทุกปีงบซ่อมบำรุงสูงขึ้น จึงขอให้เข้าใจกองทัพด้วย อีกสิ่งหนึ่งเมื่อเราจัดซื้อจัดหามาแล้วต้องมีแผนงานที่จะพูดคุยเรื่องต่างตอบแทน เป็นสิ่งที่เราต้องทำอย่างชัดเจน โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตนคุยเปิดเผยมาตลอดไม่มีใต้โต๊ะ นอกจากนี้ทุกกระทรวงต้องมีแผนงานจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีคุณภาพแบบกองทัพด้วย เพื่อประหยัดงบประมาณ และต้องมีการตั้งคณะกรรมการอย่างชัดเจน โดยตนได้สั่ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และทุกกระทรวงหารือกัน ในการศึกษาแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง โดยให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ และต่อไปจะต้องทำให้สอดคล้องกับแผนการปฎิรูป แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งงบประมาณต่อไปต้องทำแบบนี้ แต่ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ รัฐบาลต่อไปจะทำหรือไม่ตนไม่รู้