ตำรวจตรัง คาด 2-3 วันรวบตัว เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้าย เบื้องต้นยืนยันไม่ใช่การ์ดผับชื่อดัง ขณะที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะประกอบธุรกิจสีเทา ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คนขับขี่รถเก๋งสีดำประกบยิง นายศศิธร นิลลออ อายุ 30 ปี และนายชูชาติ ชุมเชื้อ อายุ 32 ปี ด้วยอาวุธปืนถึง 3 ชนิด ประกอบด้วย M16 9 มม. และ 11 มม. จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือนายชูชาติฯ ต่อมาได้ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ. ตรัง ล่าสุดเช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองตรัง ให้สัมภาณ์ถึงการสอบสวนพยานว่า ขณะทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไป3-4ปาก เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนสอบสวนผู้เสียหาย รวมทั้งพยานแวดล้อม และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานโดยเร็ว ซึ่งทราบตัวคนร้ายแล้ว โดยเฉพาะภาพวงจรปิดกล้องแยกหน้าตรังพลาซ่า หันเข้าประตูอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐื เห็นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิของผู้เสียหายขับไปก่อน (ระบุวันที่ 8/8/60เวลา 01.43.35) เพื่อไปทำแผลที่โรงพยาบาลตรัง หลังจากนายศศิธรถูกตีท้ายทอยบาดเจ็บภายในสถานบันเทิง จากนั้นห่างกันประมาณ 5 นาที รถยนต์เก๋งแคมรี่ สีดำ ได้ขับตามตามไปยังโรงพยาบาลตรัง พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อมในสถานที่เกิดเหตุ จุดที่คนร้ายใช้ของแข็งตีท้ายทอยของนายศศิธร 1 ในผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณที่รถผู้เสียหายจอดทิ้งอยู่ รวมประมาณ 4 – 5 ปาก ยืนยันคนร้ายเป็นกลุ่มนักเที่ยวด้วยกัน เบื้องต้นไม่ใช่การ์ดของสถานบันเทิงแต่จะมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยคนกลุ่มนี้ประกอบธุรกิจที่อาจมีอาวุธปืนในความครอบครอง โดยทางเจ้าหน้าที่จะรีบรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับคาดจะออกหมายจับได้ใน 1- 2 วันนี้ ด้านนายสำเริง นิลลออ นายก อบต.นาพละ อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นพี่ชายของนายศศิธร ผู้เสียหายที่คนร้ายทุบท้ายทอยต้องเย็บแผลกว่า 10 แผล กล่าวว่า น้องชายประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างโทรศัพท์ ทำฝ้าเพดาน โทรมาหาตนหลังได้รับการช่วยเหลือจากชาวสวนยางที่กรีดยางในพื้นที่และนำตัวไปส่งบ้านเพื่อแล้วว่า จากนั้นตนเองรีบไปหา โดยน้องชายเล่าว่า ถูกคนร้ายไล่ยิง จากหน้าโรงพยาบาลตรัง หลังจากถูกตีภายในสถานบันเทิงแล้วมาทำแผล โดยเพื่อนของน้องชายเป็นคนขับรถให้ เพราะน้องชายเจ็บศีรษะ “จากนั้นถูกกลุ่มคนร้ายไล่ล่ายิงตามหลังมานับจากหน้าโรงพยาบาล จนกระทั่งเพื่อนของน้องชายถูกยิงเข้าเบ้าตา ระหว่างหลบหนี เพื่อนน้องชายจึงพยายามจะเบรครถ เพื่อให้รถคนร้ายชนท้าย เพื่อตัวเองจะได้ไปต่อ แต่คนร้ายขับหลบหลีกพุ่งไปข้างหน้า แล้วย้อยกลับมา น้องชายกับเพื่อนซึ่งได้เปิดประตูรถวิ่งหนีออกมา แล้วไปซ่อนตัวที่คูระบายน้ำในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.นาพละ แล้ววิ่งเข้าป่าจนได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดีออกา น้องชายตนไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นครั้งแรก ไม่เคยไปมาก่อน ก็ การกระทำของคนร้ายอุกอาจมาก เพราะใช้อาวุธสงคราม ตนอยากเรียกร้องให้ตำรวจและฝ่ายปกครองเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว” นายสำเริง กล่าว รายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มมือปืนที่ลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจในครั้งนี้ เป็นนักเที่ยวมาจากพื้นที่ อ.ปะเหลียน ที่เข้ามาเที่ยวภายในสถานบันเทิงดังกล่าว ซึ่งอาจเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา