เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 13 ส.ค.60 (ที่ผ่านมา) พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ สภ.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จากกรณีที่ นางพัชรี ปั้นทอง อายุ 51 ปี พร้อมทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อและเดินทางมายัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยติดตามลูกสาว ชื่อ นางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อายุ 28 ปี ได้หายตัวไปขณะเดินทางกลับจากที่ทำงาน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่า นางสาวพลอยนรินทร์ ถูกนายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก หรือ เอส (แฟนเก่า) เป็นผู้ลักพาตัว ซึ่งผู้เป็นแม่ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ขณะที่นายพลกฤตก็หายตัวไปเช่นกัน ต่อมานางพัชรี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการออกหมายจับอดีตทหารยศสิบเอก ผู้ต้องหาในคดีแต่จนถึงปัจจุบันผ่านมา 3 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมตัวได้ ขณะที่ทางพ่อของนายพลกฤตที่เป็นนายทหารยศใหญ่ ก็ไม่รู้ว่าลูกชายตนเองหายไปไหน โดยชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอยุธยา นำหมายจับ ประสาน ตำรวจภูธรนครราชสีมา จากนั้นต่อมาวันที่ 11-13 สิงหาคม 2560 สืบทราบว่านายพลกฤต ได้ทำการหลบหนี เข้าไปซ่อนตัวในป่าอ้อย หลังวัดหนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม เพื่อจับกุม แต่ระหว่างปิดล้อมผู้ต้องหาไหวตัวทันและวิ่งหลบหนี จึงไม่สามารถจับกุมตัว ล่าสุดสื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ นายพลกฤต วิเศษ ผู้ต้องหาที่ลักพาตัว น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือ น้องพลอย หายตัวไปเมื่อ 3 ปีที่เเล้ว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทหารแล้ว โดยได้ติดต่อผ่านบิดาที่เป็นทหารขอให้พาเข้ามอบตัว ภายในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่ทหารจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการควบคุมตัว นายพลกฤต ไว้สอบสวนก่อน 7 วัน โดยขณะนี้ชุดสืบสวนของตำรวจอยู่ระหว่างการเข้าร่วมสอบปากคำ โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เวลา 18.30 น. ได้เดินทางมายัง สภ.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อรวมรวมเอกสารหลักฐานต่างในการจะดำเนินคดี นายพลกฤต ซึ่งให้การรับสารภาพว่าได้ทำการหลังโดนจับกุมว่า ตนเองขอยอมรับว่าได้ลักพาตัวน้องพลอยและฆ่านั้นเป็นความจริง โดยขณะนั้นตนเองนั่งรถและเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนน้องพลอยได้รับบาดเจ็บ จนน้องพลอยทนไม่ไว้กระโดดลงจากรถขณะรถยังขับเรื่อย ๆ จากนั้นร่างน้องพลอยได้ตกจากรถ ทำให้สลบ นายพลกฤต คิดว่าน้องพลอยเสียชีวิตจึงได้ นำร่างมาเผาที่บริเวณริมถนนสายแก่งคอย – แสลงพัน ระหว่างหลักกม. ที่ 15-16 ม. 2 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีเหตุฆ่าเผาศพที่บริเวณดังกล่าวจริง โดยพบหลักฐานชิ้นสำคัญของผู้ตายคือเหล็กดัดฟัน และเข็มขัด ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยปอเต็กตึ้งสระบุรี ได้ทำการเก็บหลักฐานในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 จากนั้น นางพัชรี ผู้เป็นแม่ของน้องพลอยได้เดินทางมากับนายรณณรงค์ แก้วเพชร ทนาย มาที่ สภ.แก่งคอย จากนั้นได้เข้าพบว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ห้องประชุม โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับฟัง ผ่านไป 30 นาที่ ก็ขึ้นไปให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสระบุรี ทำการเก็บ ตัวอย่าง ดีเอ็นเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับ กระดูกและหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ (ขณะขึ้นห้องเกิดเป็นลมล้มพับคาโต๊ะ เจ้าหน้าทีต่างช่วยกันปฐมพยาบาลกันอย่างรีบเร่ง)สำหรับการรู้ผลคาดว่าน่าจะ 2 วัน สำหรับคดีนี้ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวแก่นายพลกฤต เพราะว่านายพลกฤตยังอยู่ในการดูแลของทหาร แต่ขณะเดียวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานต่างๆรอไว้ก่อน