จากกรณีที่มีผู้โพสรูปตึกสูงติดสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตโดยตั้งข้อสงสัยว่าอาคารเอียงอาจมีการทรุดตัว และเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยจนทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่เกิดความตื่นตระหนกนั้นจนเป็นเหตุให้กลุ่มประชาชน และคนงานก่อสร้างจำนวนมากต่างยืนจับกลุ่มพูดคุยถึงกรณีที่เกิดขึ้นโดยคนงานส่วนหนึ่งไม่ยอมกลับเข้าไปทำงานเนื่องจากเกรงว่าตึกจะทรุดตัวนั้น เกี่ยวกับประเด็นนี้ ทีมไขประเด็นได้ติดตามความคืบหน้ามาให้ทราบเพื่อเกิดความกระจ่างโดย ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ดร.อัศวิน วาณิชย์ก่อกุล ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของโครงการ เปิดเผยว่า “ทันทีที่มีผู้โพสต์ลงโซเชียลก็รีบมาตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการทรุดตัวของอาคารแต่อย่างใด และที่มีกระแสข่าวว่ามีนั่งร้านหรือเศษหินตกลงมา ก็ไม่เป็นความจริง ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่มีการแชร์ไม่มีการทรุดตัวของอาคาร โดยเป็นดีไซน์ที่ออกแบบในรูปทรงสามมิติได้รับแรงบันดาลใจจากการพนมมือ ซึ่งการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมาก จึงได้เปิดสแลนด์กั้นบางส่วนออกไป จนทำให้เห็นโครงสร้างภายในที่ถูกออกแบบให้ลาดเอียงตั้งแต่ชั้น 17 ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำ ตามแบบก่อสร้าง จากการตรวจสอบก็ตรงตามแบบที่ก่อสร้างจึงทำให้ผู้พบเห็นเกิดความเข้าใจผิด” ด้าน นายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ กรรมการผู้บริหารบริษัท เรนด์ เพลินจิตโฮเตลจำกัด ในฐานะเจ้าของอาคารโรสวู้ด แบงค็อก ได้ชี้แจงต่อเหตุการณ์นี้ว่า “อาคารนี้เป็นอาคารที่มีทั้งสิ้น 33 ชั้น ออกแบบโดยบริษัท แทนเด็ม อาร์คิเท็ค โดยดีไซน์ ถือเป็นจุดกำเนิดของสถาปัตยกรรมอันทรงพลัง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “การไหว้”อันเป็นสัญญลักษณ์ของคนไทยที่ใช้ในการทักทายและการต้อนรับ ซึ่งจะมีความโน้มเอียงอย่างอ่อนช้อย ตามแบบที่ได้ Perspective ที่วางไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มการก่อสร้าง ปัจจุบันอาคารโรสวู้ด แบงคอก ได้ก่อสร้างไป 70% และมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2561-2562” ประเด็นนี้ไม่ได้เพียงแค่สร้างความตระหนกให้แก่ประชาชนเพียงเท่านั้นทางด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 สน.ลุมพินี เร่งหาตัวมือโพสภาพ และข้อความดังกล่าว มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) ข้อหานำข้อความเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นทีมไขประเด็นจึงขอฝากไปยังชาวโซเชียลที่จะโพสอะไรให้คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาด้วยนอกจากจะสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนแล้วหนำซ้ำยังต้องมาโดนความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย