ไล่ล่าปิดล้อมคดีปล้นรถต่อเนื่องที่ปัตตานี คุมตัวอีก 1 คนพร้อมหลักฐาน และพบดีเอ็นเอคนร้าย จากกรณีที่คนร้ายก่อเหตุปล้นรถ ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าวันนี้ 20 ส .ค.ว่าทหาร ชุดเฉพาะกิจปัตตานี โดยมี พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วยกำลัง ทหารพราน ฉก.ทพ.ที่ 43 ยังคงไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้ายก่อเหตุ ที่ทราบแล้วรวม 15 คน โดยมีการระชุมในการไล่ล่าคนร้าย โดยวันนี้ 20 สค. กำลัง 3 ฝ่าย ได้เข้าทำการปิดล้อมในพื้นที่ต้องสงสัยของ แนวร่วมที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นรถดังกล่าวจำนวน 3 จุด คือต.ปูโล๊ะปูโย และตำบลลิปะสะไง อำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี และ ม.2 ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง ปัตตานี หลังจากทราบเบาะแสว่า เป็นพื้นที่ที่มีแนวร่วม ฝ่ายปฏิบัติการ ผู้ก่อเหตุปล้นรถยนต์ และนำมาประกอบระเบิด และพบว่า คลองน้ำในตำบลปูโล๊ะปูโย เป้นจุดหนึ่งที่เป นทางน้ำ ที่กลุ่มคนร้ายอาจจะใช้เป็นเส้นทางที่ขนระเบิดเพื่อประกอบระเบิดรถยนต์ ซึ่งจากการตรวจค้น ที่ ม.2 ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานีพบข้อมูลพยานหลักฐาน เป็นภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุ และพบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับข้อมูลการปล้นรถ โยเป็นข้อมูลมาจากโทรศัพท์มือถือ จึงได้ควบคุมตัวผู้สงสัย 1 คน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานีเปิดเผยว่า ขณะนี้ในการติดตามกลุ่มคนร้ายขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว เนื่องจากผลการตรวจสอบ หลักฐาน ทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่มาจากรถยนต์ ที่ถูกปล้น และนำไปจอดทิ้งไว้ที่ในป่าสวนยาง ต.แม่กัง อ.โคกโพธิ์ จงปัตตานี พบว่าดีเอ็นเอที่พบในรถยนต์ตรงกับ นายรอซาลี หลำโซ๊ะ ซึ่งเป้นน้องชายของ บูคอลี หลำโซ๊ะ ที่เป้ฯแนวร่วมสำคัญ และเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นหัวหน้ากลุ่มที่ก่อคดีปล้นรถ นอกจากนั้น ดีเอ็นเอในรถที่ปล้นมา และนำไปก่อเหตุระเบิดที่หน้าบ้านพักตำรวจ อ.มายอ จงปัตตานีพบดีเอ็นเอของนายมาหามะ สะอิ แนวร่วมที่สำคัญอีกคนหนึ่ง ที่คาดว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ปล้นรถอำเภอยะรัง ก่อนที่จะนำมาปล้นรถที่นาทวี พร้อมทีมงาน นายบูคอลิ สะอิ ซึ่งดีเอ็นเอถือเป้นหลักฐานสำคัญอีกอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ชุดทหารเฉพาะกิจปัตตานี ยังคงมีเบาะแสแนวร่วมที่ก่อเหตุหลายจุด รวมทั้งผู้ก่อเหตุอีก 15 คน ขณะนี้ทราบชื่อหมดแล้ว กำลังอยู่ระหว่างไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง