วันที่ 21 ส.ค. 60 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หย่อมความกดอากาศต่ำ พายุโซนร้อนตาลัส และพายุโซนร้อนเซินกา ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. – 20 ส.ค. 60 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 44 จังหวัด 302 อำเภอ 1,724 ตำบล 14,105 หมู่บ้าน 43 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 609,425 ครัวเรือน 1,898,322 คน ผู้เสียชีวิต 36 ราย บ้านเรือนเสียหาย 2,574 หลัง แยกเป็น เสียหายบางส่วน 2,559 หลัง เสียหายทั้งหลัง 15 หลัง ถนน 2,401 สาย คอสะพาน 111 แห่ง สะพาน 207 แห่ง ฝายและทำนบ 8,753 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1.51 ล้านไร่ พื้นที่ประมง 149.41 ไร่ ปศุสัตว์ 30,248 ตัว ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 38 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ นครพนม ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี และภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 12 – 20 ส.ค. ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 8 จังหวัด แยกเป็น ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ ตรัง สตูล นครศรีธรรมราช และกระบี่ ภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร น่าน และเชียงราย ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ ตราด รวม 29 อำเภอ 95 ตำบล 340 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,656 ครัวเรือน 24,566 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 6 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด ได้แก่ สตูล และพิจิตร รวม 11 อำเภอ 42 ตำบล 159 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,998 ครัวเรือน 5,985 คน อย่างไรก็ตาม ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ส่วนจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่