ทั้งตั้งสอบผู้บังคับบัญชาโทษฐานเพิกเฉย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผลการสืบสวนกรณีข้าราชการมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศว่า เช้าวันนี้ (23 ส.ค.60) คณะกรรมการสืบสวนได้เสนอผลการสืบสวนกรณีข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกองกลาง สำนักงานปลัดก.สาธารณสุข ถูกร้องเรียนว่าได้กระทำอนาจารผู้ใต้บังคับบัญชาหญิง หลายราย ในลักษณะไม่สมควร เป็นการคุกคามทางเพศ ซึ่งตนได้สั่งการให้สืบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่มีข่าวว่าผู้บังคับบัญชาบางคนมีการไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความร้องทุกข์ด้วยนั้น 1.ประเด็นข้าราชการชายมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศและข่มขู่ผู้เสียหายนั้น มีพฤติกรรมตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวหาจริง และผู้ถูกกล่าวหายอมรับว่าหยอกล้อที่ไม่เหมาะสม แต่ทำโดยไม่มีเจตนาจะลวนลามเชิงชู้สาวหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควร ถือได้ว่าเป็นการคุกคามทางเพศ ตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการกระทำการอันเป็นการล่วงละเมิด หรือคุกคามทางเพศ พ.ศ. 2553 และผู้ถูกกล่าวหามักแสดงพฤติกรรมวางอำนาจในฐานะผู้บังคับบัญชา บางครั้งได้ข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนในกรณีต่าง ๆ กันไป มักแสดงกริยาอาการไม่พอใจ อารมณ์เสียในเวลาผู้ใต้บังคับบัญชาขัดใจหรือไม่ทำสิ่งที่ต้องการ คณะกรรมการจึงมีความเห็นว่า มีมูลอันควรกล่าวหาว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เห็นควรให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง 2.ประเด็นที่เป็นข่าวว่ามีผู้บังคับบัญชาบางคนไกล่เกลี่ยไม่ให้ผู้เสียหายดำเนินคดีอาญา หรือกรณีผู้บังคับบัญชารู้เรื่องแล้วไม่ดำเนินการใดๆ นั้น ไม่พบว่าผู้บังคับบัญชาหรือผู้ใดไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ แต่ประเด็นที่ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้วไม่ดำเนินการใดๆ พบว่าผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องมาเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่ไม่ได้ทราบจากผู้เสียหาย จึงถือว่าผู้บังคับบัญชาทราบเรื่องแล้ว แต่ไม่ได้มีการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน ถูกต้องตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด คณะกรรมการสืบสวนจึงเห็นว่า พฤติการณ์เช่นนี้มีมูลอันควรกล่าวหาว่า กระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เห็นควรให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรงผู้บังคับบัญชาชั้นต้น