ตะลึงกองทัพหนอนบุกสระกะพังสุรินท์ เทศบาลนครตรัง กัดกินใบบัวเหี่ยวแห้งเฉา จากใบเขียวดอกสวยงาม กลายเป็นสีน้ำตาลละลานตา ยันไม่ได้เกิดจากน้ำเน่าเสียเนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องปั่นเพิ่มออกซิเจนในสระตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม ว่าจากการที่ได้มีประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง ได้ตั้งกระทู้ในโลกโซเซียล (เฟซบุ๊ค)ถึงประเด็นบัวในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตทศบาลนครตรัง เกิดสภาพเหี่ยวแห้งเฉาไปทั่วทั้งสระ ทำให้ใบบัวซึ่งมีสีเขียว และดอกขาว แดง ชมพู กลับกลายมาเป็นสีน้ำตาลพรึบเต็มสระ โดยมีการวิพากษ์วิจารรณ์ว่า ทำให้บรรยากาศภายในสระกะพังสุรินทร์ไม่สวยงามไม่น่ามอง และตั้งข้อสงสัยอีกว่าสาเหตุที่บัวแห้งเฉาอาจเป็นเพราะน้ำเน่าเสีย ล่าสุด นายจีรศักดิ์ ควนจันทน์ เลขานุการนายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมด้วย นายเจริญวิทย์ พูลสิน สมาชิกสภาเทศบาลนครตรัง ได้เดินทางไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า บริเวณใบบัวมีหนอนไม่ทราบชนิดเกาะกัดกินใบบัว อย่างน้อยใบละ 2-3 ตัว จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากหนอนที่ทำให้ใบบัวเหี่ยวเฉาและแห้งตาย นอกจากนี้ยังสันนิษฐานว่า เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรของบัว เนื่องจากช่วงนี้ของทุกปีบัวในสระฯจะแห้งเหี่ยวเฉาก็เป็นไปได้ นายเจริญวิทย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีประชาชนนำภาพใบบัวภายในสระกะพังสุรินทร์ มีสภาพเหี่ยวเฉา ว่าเกิดจากน้ำเน่าเสียนั้น ตนในฐานะ สมาชิกสภาเทศบาลเขตพื้นที่จึงลงมาสำรวจ เบื้องต้นจากการสังเกตดูบริเวณใบบัว พบว่ามีตัวหนอนไม่ทราบชนิดกัดกินใบบัวทุกใบ นอกจากนั้นยังปรากฏให้เห็นอุจจาระเป็นก้อนเล็กๆสีดำของตัวหนอนอีกด้วย จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่ามาจากตัวหนอน ส่วนที่มีการโฟสว่าน้ำในสระเน่าเสียนั้น จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบต่อไป แต่ตนเชื่อว่าไม่น่าจะมาจากน้ำเน่าเสีย “เนื่องจากที่ผ่านมา ทางเทศบาลนครตรังได้มีการติดตั้งเครื่องปั่นน้ำ และจัดทำอุปกรณ์น้ำพุ เพื่อแป็นการเพิ่มอ๊อกซิเจนในสระ ทำให้ต้นดอกบัวที่เคยมีอยู่เป็นหย่อมๆแพร่ขยายพันธ์จนเต็มสระ ช่วงที่ดอกบัวออกดอกเต็มสระสวยงามเป็นสระบัวแดง ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวออกกำลังกายและถ่ายภาพกันอย่างคึกคัก แต่มาวันนี้สภาพดังกล่าวหายไป หรือจะเป็นธรรมชาติวัฎจักรประจำของต้นบัว ที่จะต้องเหี่ยวเฉาไปตามฤดูกาล” นายเจริญวิทย์ กล่าว นายจีรศักดิ์ กล่าวว่า สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ เป็นสวนสาธารณะที่มีความเก่าแก่ที่สุด ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง โดยมีลักษณะเป็นหนองน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 74 ไร่ แยกออกเป็นผืนน้ำ 52 ไร่ พื้นดิน 22 ไร่ มีการก่อสร้างศาลากลางน้ำ จำนวน 3 หลัง ซึ่งมีสะพานเชื่อมโยงติดต่อกัน นอกจากจะใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนแล้ว ยังเป็นสถานที่ออกกำลังกายอีกด้วย ถือเป็นปอดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเทศบาลนครตรัง ส่วนสาเหตุที่ดอกและใบบัวเหี่ยวเฉาในครั้งนี้ “ผมคิดว่าไม่ต้องวิตกเนื่องจากเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเทศบาลจะได้ดำเนินการลงไปตัดกิ่งบัวที่เหี่ยวเฉาขึ้นออกมาให้หมด เพราะไม่งั้นแล้วใบบัวจำนวนมหาศาลที่เน่าเสีย จะทำให้น้ำในสระเน่าเสียและจะกระทบต่อสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาจำนวนมากได้รับอันตรายไปด้วย และขอขอบคุณที่ประชาชนให้ความสนใจช่วยกันสอดส่องดูแลและให้ความคิดเห็น เทศบาลนครตรังจะเข้าไปจัดการเรื่องดังกล่าวให้สระกะพังสุรินทร์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ต้นบัวได้แตกหน่อออกใบและดอกต่อไป” นายจีรศักดิ์ กล่าว นายจรินทร์ นุ่นปาน อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ 1 ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเดินทางมาเที่ยวสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ เป็นประจำ โดยปกติภายในสระกะพังสุรินทร์จะมีดอกบัวบานสะพรั่งเต็มสระ เป็นภาพที่สวยงามและบรรยากาศดีมาก แต่เมื่อเร็วๆตนพบว่ามีใบบัวเหี่ยวเฉาตาย สังเกตเห็นพบว่ามีตัวหนอนมากัดกินใบ จึงทำให้ทั้งสระปรากฎเป็นภาพที่เห็น ซึ่งน่าจะเป็นปรากฎการณ์ประจำทุกปี ไม่น่าเกิดจากน้ำเสียแต่อย่างใด