กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า มิตราไจนา สเปซิโอซา คอร์ท มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนชื้นแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย มาลายู จนถึงเกาะนิวกินีด้วย ที่พบในประเทศไทยมีอยู่ 3 พันธ์ คือแตงกวา (ก้านเขียว) ยักษาใหญ่ (รูปใบใหญ่) และก้านแดง มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละที่ เช่น ในประเทศไทย ภาคเหนือ เรียกอีกด่าง อีแดง กระอ่วม ภาคใต้ เรียกท่อม หรือ ท่ม ในมาลายู เรียก คูทุมในประเทศไทยมีการนำมาใช้เป็นยาแก้โรคบิด ท้องร่วง และปวดมวนท้อง ชาวนานิยมบริโภคโดยการเคี้ยวใบสดหรือเอาใบมาย่างให้เกรียม และตำผสมกับน้ำพริกรับประทานเป็นอาหาร เพื่อให้มีแรงทำงานและสามารถทนตากแดดอยู่กลางแจ้งได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเหนื่อย ชาวมาลายูใช้ใบกระท่อมตำพอกแผล และใช้ทั้งใบเผาให้ร้อนวางบนท้องรักษาโรคม้ามโต แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น กระท่อมจัดว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย เพราะจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ชนิดเดียวกับกัญชา ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 มาตรา 7 จากกรณีที่โซเชียลได้โพส “ใบกระท่อม...มีคุณอนันต์ #แต่ก็มีโทษมหันต์” และบางส่วนยังสงสัยว่าที่จริงแล้วสามารถปลูกได้หรือไม่สำหรับประเด็นนี้ทีมไขประเด็นจึงได้หาข้อมูลเพื่อไขข้อข้องใจว่าที่จริงแล้วใบกระท่อมสามารถปลูกได้หรือไม่ โดย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ กล่าวว่า จากการปชะชุมที่ผ่านมา ซึ่งตนได้เป็นประธานแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เข้าหารือร่วมกับกรรมการจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีทั้งคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม ฯลฯ ในการหารือ ซึ่งเบื้องต้นในเรื่องของกระท่อมนั้น ยังถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 คือ ห้ามปลูกห้ามจำหน่ายยกเว้นบางกรณี ซึ่งต้องมาขอกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยขณะนี้ได้อนุญาตในบางพื้นที่ ไม่ใช่ว่าอนุญาตให้ทุกครอบครัวปลูก ซึ่งได้มีการคัดเลือกเป็นบางพื้นที่ คือ อำเภอบ้านนาสาร จ.สุราษฏร์ธานี โดยให้ปลูกได้เพียงบ้านละ 3 ต้น และมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตลอด ซึ่งการอนุญาตนั้นเนื่องจากเป็นวิถีชาวบ้าน แต่ยังไม่ได้อนุญาตแบบเปิดกว้างแต่อย่างไรซึ่งการคัดเลือกพื้นที่ที่ปลูกเป็นการดำเนินการของทาง ป.ป.ส.ส่วนเรื่องกัญชาก็เช่นกัน ยังไม่อนุญาตยกเว้นการศึกษาวิจัยเท่านั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวว่ามี ประชาชนจากภาคใต้ได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปลดล็อกใบกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 หรืออนุญาตให้พี่น้องชาวใต้ได้ใช้วิถีดั้งเดิมเอาใบกระท่อมเคี้ยวหรือใช้เป็นสมุนไพรเพื่อทำให้เกิดความขยันขันแข็งได้ ซึ่งนี่เป็นประเพณีที่ทำมาตั้งแต่โบราณกาล ที่ผ่านมาตนสนับสนุน พล.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ยกเลิกกัญชงอออกจากบัญชียาเสพติด ดังนั้นตนเห็นว่าควรที่จะให้มีการผ่อนปรน ให้ใช้ใบกระท่อมเป็นพืชสนุนไพรได้ ในขณะนี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย สามารถปลูกกระท่อมเพื่อส่งออกได้ ส่วนที่ประเทศอังกฤษก็สามารถขายใบกระท่อมตามร้านกาแฟ โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ได้ ดังนั้นตนจะเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชิปัตย์ว่าจะให้ใบกระท่อมไม่เป็นยาเสพติด เพื่อให้ประเทศไทยได้มีมาตรฐานเดียวกับประเทศอังกฤษ ทั้งนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสิ่งที่กำลังเรียกร้องอยู่ในขณะนี้เมื่อพิจารณาถึงผลดี และผลเสียแล้วอย่างไหนดีกว่ากันเพราะทุกอย่างมันมีทั้งคุณ และโทษในตัวมันขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ให้เพื่อให้เกิดเป็นประโยชน์มากกว่า