เมื่อวันที่ 24 ส.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า พายุไต้ฝุ่นฮาโตะซึ่งเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศจีนตอนใต้ เหนือประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ในวันที่ 24 - 28 ส.ค. ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเดิม และเป็นพื้นที่ที่ต้องรองรับน้ำจากแม่น้ำต่างๆ ที่ไหลมาสมทบ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย แยกเป็น ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี และกาญจนบุรี นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ฝั่งตะวันตก 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ปภ.เขต สำนักงานปภ.จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย และจังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมากปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรต่อวัน ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ทั้งนี้ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอันตรายจากปริมาณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในระยะนี้