เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 สิงหาคม 2556) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในหัวข้อ "ใครพาคุณยิ่งลักษณ์หนี?"ว่า มีผู้ถามตนเยอะเรื่องใครพาคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีออกนอกประเทศ ผมตอบอย่างนี้ก็แล้วกัน 1. ในฐานะที่ผมเคยกำกับดูแล"กรมการศาสนา" ตนตอบได้ว่า เจ้าหน้าที่ของกรมการศาสนาไม่ได้พาคุณยิ่งลักษณ์หนีไปแน่นอน ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่กรมไหน กองไหน ตนไม่รู้ 2. ทำไมประเทศเพื่อนบ้าน"ยอม"ให้คุณยิ่งลักษณ์เข้าประเทศ และใช้สนามบินของประเทศนั้นเพื่อหนีไปประเทศที่ 3 ทั้งๆที่คุณยิ่งลักษณ์เป็นจำเลยคนสำคัญของประเทศไทย ข้อนี้ น่าคิด ไปคิดต่อกันเองแล้วกัน นายนิพิฎฐ์ ให้สัมภาษณ์ต่อว่า ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ตนก็มีสิทธิ์ถามในกรณี การหลบหนีออกนอกประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หากเป็นจริง ต้องถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถเดินเท้าไปขึ้นเครื่องบิน หรือใช้พื้นที่สนามบินของประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยที่ผู้นำของประเทศนั้นๆไม่ทราบเรื่อง หรือไม่ยินยอมไม่ได้ ถ้าเขารู้แต่รัฐบาลไทยไม่รู้ก็แสดงว่า ผู้นำของเพื่อนบ้านไม่ได้ใหเกียรติประเทศไทย เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสถานะตกเป็นจำเลยในคดีสำคัญของไทย ที่สำคัญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ติดต่อหรือใช้สิทธิ์ขอเป็นผู้ลี้ภัยของประเทศนั้นๆ ตามหลักการทูต เพราะสถานะของผู้ขอลี้ภัยและผู้หลบหนีมีความแตกต่างกันมาก กรณีนี้เป็นการใช้พื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นประเทศที่สอง เพื่อเดินทางผ่านไปสู่ประเทศที่สาม ถามว่ารัฐบาลรู้เรื่องหรือไม่ อย่างไร รัฐบาลต้องมีคำตอบชี้แจงให้สังคม ในทางกลับกัน ถ้ามีผู้ทำความผิดในคดีสำคัญในประเทศเพื่อนบ้าน และมาขอใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อหลบหนี ไปสู่ประเทศที่สาม ถามว่าผู้นำของรัฐบาลไทยจะยอมหรือไม่ ดังนั้นการเป็นประเทศที่มีพรมแดนหรือเปรียบเป็นรั้วรอบขอบชิดติดกัน ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยการเคารพสิทธิไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของแต่ละประเทศ ถามว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น รัฐบาลไทยจะปล่อยให้เขาไม่ให้เกียรติเราเช่นนี้อีกหรือ