นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายหลังการทำประชาคมกับชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการก่อสร้างท่าเทียบเรือเกาะพะลวย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมเจ้าท่า หากได้รับการอนุญาตแล้ว จะเร่งสร้างให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเชื่อมต่อการท่องเที่ยวและขนส่งจากเมืองสู่เกาะ อีกทั้งยังมีแผนศึกษาการลงทุนเกาะอื่นๆ เพิ่มเติม โดยจะมีการเสนอที่ประชุมบอร์ดขออนุมัติออกหุ้นกู้วงเงิน 800 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในโครงการลงทุนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต “ในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวจากผลพวงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับตัว เช่นเดียวกับราชาเฟอร์รี่ที่เตรียมพร้อมปรับแผนลงทุนอยู่ตลอด และยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างรอการพิจารณา คาดว่าหลายๆ โครงการจะเริ่มมีความชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ” นายอภิชาติ กล่าว สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2563 อยู่ที่ 107.01 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 อยู่ที่ 166.5 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปี 2563 อยู่ที่ 503.68 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 722.05 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่เกาะสมุย และเกาะพงันน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ยังได้เห็นควรให้มีการเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เพื่อพิจารณาและอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) สำหรับการใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท จากทุนจดทะเบียนเดิม 200,811,609 บาท เป็น 220,811,609 บาท โดยเป็นการเพิ่มหุ้นจดทะเบียนของบริษัทเป็นจำนวน 20,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 20,000,000 บาท พร้อมกันนี้ ได้มีมติกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM) ประจำปี 2564 ในวันที่ 29 เมษายน 2564 เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมเวโรนิก้า ชั้นที่ 1 ถนนรัชดาภิเษก ดินแดง กรุงเทพมหานคร