มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 11 โรงพยาบาล แหล่งฝึกภาคปฏิบัติของนักศึกษาพยาบาล ร่วมกันพัฒนาทางด้านการจัดการศึกษา การวิจัย การบริการวิชาการด้านการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ รักษาการแทนอธิการบดี มวล. เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนพร้อมด้วย รศ.ดร.วิภาวรรณ ชะอุ่ม เพ็ญสุขสันต์ คณบดีสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มวล. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ด้านการจัดการศึกษา การวิจัย และการบริการวิชาการทางการพยาบาล ร่วมกับ ผู้บริหารโรงพยาบาล 11 แห่ง ประกอบด้วย รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช รพ.สิชล รพ.ท่าศาลา รพ.ปากพนัง รพ.หาดใหญ่ รพ.วชิระภูเก็ต รพ.ตรัง รพ.พัทลุง รพ.สวนสราญรมย์ รพ.สงขลา และรพ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจะร่วมกันพัฒนางานด้านการพยาบาล และด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพที่เกี่ยวข้อง
ศ.ดร.สมบัติ กล่าวต่อว่า สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มวล. มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตบัณฑิต เพื่อตอบสนองต่อการขาดแคลนพยาบาลของประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังมีความต้องการอีกจำนวนมาก อีกทั้งในอนาคตสังคมไทย จะเป็นสังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น ความต้องการพยาบาลก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ ยังผลิตได้เพียงปีละ 80 คน ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการของประเทศ และในอนาคตอันใกล้นี้เราตั้งเป้าหมายให้สามารถผลิตบัณฑิต ได้ถึงปีละ 200 คน
"ปีที่ผ่านมา คณาจารย์ และผู้เกี่ยวข้องทุกคนทำงานกันอย่างหนัก ส่งผลให้บัณฑิตสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ สามารถสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพ ได้ถึงร้อยละ 97 แสดงให้เห็นถึงคุณภาพทางด้านการเรียนการสอนของสำนักวิชาพยาบาล อยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศ
...ทั้งนี้ นอกจากพยาบาลแล้วเรายังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนบัณฑิตในสำนักวิชาแพทยศาสตร์ จากเดิม 48 คน ในปี 2564 เพิ่มเป็น 115 คน สำนักวิชาเภสัชศาสตร์จากเดิม 90 คน เป็น 160 คน ส่วนสำนักวิชาพยาบาล จะเพิ่มเป็น 200 คน ที่สำคัญสภามหาวิทยาลัย ยังได้อนุมัติให้เปิดวิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์นานาชาติ วิทยาลัยสัตวแพทย์ศาสตร์อัครราชกุมารี วิทยาลัยนานาชาติ เพื่อรองรับการขยายตัวทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพด้วย" รักษาการแทนอธิการบดี มวล.กล่าว
ศ.ดร.สมบัติ กล่าวต่อว่า สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มวล. มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตบัณฑิต เพื่อตอบสนองต่อการขาดแคลนพยาบาลของประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังมีความต้องการอีกจำนวนมาก อีกทั้งในอนาคตสังคมไทย จะเป็นสังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น ความต้องการพยาบาลก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ ยังผลิตได้เพียงปีละ 80 คน ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการของประเทศ และในอนาคตอันใกล้นี้เราตั้งเป้าหมายให้สามารถผลิตบัณฑิต ได้ถึงปีละ 200 คน
"ปีที่ผ่านมา คณาจารย์ และผู้เกี่ยวข้องทุกคนทำงานกันอย่างหนัก ส่งผลให้บัณฑิตสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ สามารถสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพ ได้ถึงร้อยละ 97 แสดงให้เห็นถึงคุณภาพทางด้านการเรียนการสอนของสำนักวิชาพยาบาล อยู่ในระดับแนวหน้าของประเทศ
...ทั้งนี้ นอกจากพยาบาลแล้วเรายังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนบัณฑิตในสำนักวิชาแพทยศาสตร์ จากเดิม 48 คน ในปี 2564 เพิ่มเป็น 115 คน สำนักวิชาเภสัชศาสตร์จากเดิม 90 คน เป็น 160 คน ส่วนสำนักวิชาพยาบาล จะเพิ่มเป็น 200 คน ที่สำคัญสภามหาวิทยาลัย ยังได้อนุมัติให้เปิดวิทยาลัยทันตแพทยศาสตร์นานาชาติ วิทยาลัยสัตวแพทย์ศาสตร์อัครราชกุมารี วิทยาลัยนานาชาติ เพื่อรองรับการขยายตัวทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพด้วย" รักษาการแทนอธิการบดี มวล.กล่าว