“ผบ.ตร.” ยันตรวจทุกมิติ ไร้ข้อมูลการหลบหนีอดีตนายก “ยิ่งลักษณ์” ซัด “ศรีวุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช.แค่ตะแบงไม่ฟ้องกลับ ทำทานบารมี ของเหม็นไม่เขาอยู่ใกล้ ส่วน “สารวัตรหนุ่ย” ตำรวจคนสนิทตระกูลชินวัตร เข้ารายงานตัว “ศรีวราห์” สอบปากคำเอง อุบข้อมูลเปิดเผยไม่ได้อยู่ในแนวการสืบสวน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.60 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงการติดตามจับกุมตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่หลบหนีหรือจงใจไม่เข้ารับฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ในการติดตามจับกุมตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบได้รายงานความคืบหน้าตลอดตั้งแต่ศาลฏีกาฯได้อนุมัติหมายจับ ได้ดำเนินการทั้งระบบทั้งการออกประกาศสืบจับ พร้อมมีคำสั่งให้รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) แต่ละภาคที่รับผิดชอบความมั่นคงเฝ้าดูเฝ้าระวังด้านการข่าวทุกมิติ ส่วนที่ข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกเดินทางออกนอกประเทศ จากการตรวจสอบตามช่องทางหลักสุวรรณภูมิยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกแต่อย่างใด ส่วนจะอยู่ในประเทศหรือไม่อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวน เรื่องนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้ออกวิทยุสั่งทุกกองบัญชาการให้ติดตามจับกุมบุคลหมายจับ ส่วนจะอยู่หรือออกนอกประเทศไปแล้ว ถ้าพูดไปก่อนมันมีผลต้องค่อยๆทำ ส่วนช่องทางธรรมชาติก็ตรวจสอบทุกมิติ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเรียกสอบ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผกก. ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ตำรวจใกล้ชิดคนตระกูลชินวัตรแล้วหรือยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตอบว่า เรียกมาสอบถามแล้ว เขาติดต่อมาแล้ว ส่วนข้อมูลเปิดเผยไม่ได้ ส่วนบุคคลอีก 14 คน ที่ไปพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ก่อนการหลบหนี ทราบว่าเป็นการไปพบปะตามธรรมดา แต่ลึกๆกำลังดำเนินการอยู่ ในความรู้สึกเชื่อว่าเป็นการไปมาหาสู่ เพราะว่าช่วงนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการประกันตัวจากศาล ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เปิดเผยเพิ่มเติมกรณีของ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ว่า พ.ต.อ.วัทัญญู ได้เข้ามาให้การกับผมที่สำนักงานชั้น 7 ตามที่ ผบ.ตร.สั่งการ ของวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยที่ผมเป็นคนสอบเองไม่มต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบ โดยตัว พ.ต.อ.วทัญญู ได้ให้ข้อมูลบางประการที่เป็นประโยชน์ เป็นเบาะแสในการดำเนินการต่อ ส่วนการไปอารักขา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมาถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบ ถามต่อว่าจากการสอบปากคำ พ.ต.อ.วทัญญู พบเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ พล.ต.อ.ศรีสราห์ ตอบว่า เป็นเรื่องของการสืบสวนไม่ขอตอบ แต่ยืนยันว่ามีการดำเนินการแล้ว ถามต่อว่าการสอบสวนจะมีโอกาสได้ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ รอง ผบ.ตร.ตอบต่อว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ได้รับประกันตัวจากศาล หมายความศาลได้พิจารณาแล้ว่า ไม่หลบหนี ไม่ไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เป็นไปตามวิอาญาทั่วไป ฉนั้นในส่วนของเจ้าหน้าที่ปกครอง ทหาร ตำรวจ จะไปก้าวล่วงมากก็คงไม่เหมาะ ขัดรัฐธรรมนูญ อีกอย่างกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่อยู่บ้าน ระหว่างที่เดินทางไป ขณะนั้นหมายจับยังไม่มี คนที่พาหนียังไม่เข้าข่ายการกระทำความผิด แต่ถ้าหลังจากออกหมายประกาศสืบจับ ถ้าตำรวจคนไหนพาหนีคนนั้นต้องโดน ที่สำคัญอีกเรื่อง เมื่อศาลให้ประกันตัวแล้วศาลก็ไม่ได้สั่งการให้ทหาร ตำรวจหรือฝ่ายปกครองหน่วยใด มาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งจะไปก้าวล่างไม่ได้ ประกอบกับรัฐธรรมนูญเมื่อคำตัดสินยังไม่ออกต้องถือว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขามีสิทธิ์เหมือนคนไทยคนหนึ่ง ถามต่อว่าเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งกำชับในการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.ตอบว่า เรื่องนี้ทั้ง ท่านนายกฯและรองนายกฯ ท่านรู้อยู่แล้วว่า ตร.ต้องทำอะไร ไม่ต้องสั่งการเรารู้อยู่แล้วระบบต้องทำอะไร อย่าพยายามดึงท่านมาเกี่ยวข้อง ส่วนการหลบหนีจะมีใครพาหนีผมไม่ทราบ แนวคิดคนเราไม่เหมือนกัน คำว่า “หนี” ไปคิดเอาแล้วกันอย่าคนให้รู้เยอะหรือเปล่า แต่ศักภาพที่อดีตนายกจะหลบหนีคนเดียวได้หรือไม่ผมไม่ทราบ ไม่ใช่ท่าน ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าอดีตนายกฯหลบหนีไปต่างประเทศหรือเปล่า เพราะการเข้า-ออก สุวรรณภูมิไม่มีข้อมูลการเดินทาง แต่ไม่ทราบว่าไปทางไหนอย่างไร แต่ในส่วนของตำรวจถือว่าทำครบทุกมิติแล้ว ประกาศสืบจับ สั่งทุกกองบัญชาการที่มีเส้นหลบหนีติดแนวชายแดน หรือ “เส้นทางโจร” เราทำเต็มที่อยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่นคนที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เสื้อสีต่างๆที่หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ผมพูดในความหมายอย่างนั้น “ตำรวจทำงานทุกมิติ พร้อมแจ้งไปยังอินเตอร์โพล ใช้ทุกช่องทาง เหมือนกรณีของ”บอส” นายวรยุทธ อยู่วิทยา ลูกชายเจ้าของเครื่องกระทิงแดง ส่วนที่การถอนพาสปอร์ตกระทรวงการต่างประเทศบอกต้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหนังสือขึ้นไปนั้น ถ้าจริงๆแล้วเป็นเรื่องของกระทรงการต่างประเทศ ถ้าจะให้ทำก็ต้องรอคำพิพากษาว่าศาลจะตัดสินอย่างไร หน่วยงานใดมีหน้าที่ก็ทำไปก่อนเลย อย่าโยนกันไปโดยนกันมา” ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.ยังกล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้อง ป.ป.ช.ให้เอาผิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณและผมเรื่องการที่ปล่อยคุณยิ่งลักษณ์หลบหนีไป ผมรูสึกเฉยๆ ไม่มีอะไร ไม่ได้ทุจริตคอร์รับชั่นอะไร เขามีหน้าที่ก็ทำกันไป คนไทย 60-70 ล้านคน ตะแบงอยู่คนเดียว อย่างนี้ถ้าใครหนีไปก็ 157 ทุกคนสิ ตะแบงมากกว่า “ผมไม่ฟ้องกลับหรอก ทำงานบารมีดีกว่า ของหม็นผมไม่อยู่ใกล้อยู่แล้ว” ผบ.ตร.กล่าว