กรณีที่คนร้ายฉกกระเป๋าของนายนิสิทธิ์ พุทรักษ์ อายุ 69 ปี เซียนพระเปิดร้านอยู่ที่ตลาดพีเซนเตอร์ จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณไป 50 บาท และพระจำนวน 100 องค์มูลค่า 2 ล้านกว่าบาท เหตุเกิดที่ ปากซอนนวมินทร์ 101 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ต่อมาหลานของผู้เสียหายโพสท์ปรากฎเป็นคลิปแชร์กันสนั่นในโลกออนไลน์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.60 ที่ สน.ลาดพร้าว ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุดังกล่าวที่ สน.ลาดพร้าว พบว่าทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชวลิต กิ้มเฉี้ยง รองสว.(สอบสวน)สน.ลาดพร้าวตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้วโดยเหตุดังกล่าวเกิดจากทางคนร้ายหลอกนายนิสิทธิว่าจะพาไปหาคนที่ต้องการเช่าพระ โดยหลอกให้ขับรถพาไปแถวๆ ถนนนวมินทร์ ในขณะที่ไปผู้เสียหายขับรถผิดเลน จึงโดนตำรวจเรียกออกใบสั่ง ทางคนร้ายอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเดินไปเอาใบสั่งกับตำรวจ เปิดประตูรถพร้อมทั้งหิ้วกระเป๋าของผู้เสียหายลงจากรถ แล้ววิ่งหนีไป ภายในมีทรัพย์สิน พระเครื่อง สร้อยคอทองคำ กรอบพระทองคำ เช็คเงินสดซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เซียนพระเคราะห์ร้ายเก็บสะสมมาทั้งชีวิต ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกับทางตำรวจทันที โดยนายนิสิทธิ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนเปิดร้านเช่าพระตามปกติ ทางคนร้ายทำทีมาชวนคุย โดยบอกว่าเดินดูหลายร้านแล้ว เห็นมีแต่พระปลอม แต่ร้านของตนมีพระแท้ แล้วบอกตนว่ามีคนอยากเช่าพระแถวนวมินทร์ ทีแรกตนก็ไม่เชื่อ ทางคนร้ายชวนคุยเกือบ 1 ช.ม.จนมีอาสามูลนิธิแห่งหนึ่งซึ่งตนรู้จักมาคุยทางคนร้ายเห็นอาสามูลนิธิซึ่งแขนขาดก็เข้ามาเชยชมว่าทำงานเป็นคนดีช่วยสังคม จึงหยิบพระในย่ามของคนร้ายมอบให้ไปเลย ตนเห็นก็คิดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนดี เพราะใครที่ไหนจะให้พระคนอื่นง่าย ๆ แบบนี้ จึงหลงเชื่อยอมไป ขับรถไปตามถนนนวมินทร์ ตนก็ไม่รู้จักเส้นทางแถมรถติด จึงทำผิดกฎจราจรขับผิดเลน จนโดน ตร.ให้ใบสั่ง ระหว่างที่ลงจากรถไปถามตร.ว่าสน.อยู่ไหนเพราะจะไปจ่ายค่าปรับ กินเวลาถามไม่ถึง 30วินาที ตนกลับมาที่รถซึ่งติดฟิล์มทึบ ก็ไม่เห็นคนร้ายแล้ว พอไปดูที่เบาะหลังก็ไม่เห็นกระเป๋าตน ตอนแรกนึกว่าคนร้ายไปซื้อของ แต่พอไปถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครเห็น จึงขอดูวงจรปิดละแวกดังกล่าวก็พบว่าคนร้ายเอากระเป๋าตนไปเสียแล้ว ทางด้าน พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจทราบตัวคนร้ายรายนี้แล้ว ชื่อ นาย ชลิต บุญยิ่ง อายุ32ปีอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับในวันพรุ่งนี้ ข้อหาลักทรัพย์ ทั้งนี้จากตรวจสอบประวัติพบนายชลิตมีหมายจับของศาลแขวงนนทบุรี เมื่อวันที่ 18 ต.ค.56 และหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.54 โดยหมายจับทั้งสอง มีข้อหาเดียวกัน คือฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป