ที่นักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ตามมาตรฐานตำรวจสากลรุ่นที่ 2 พร้อมกล่าวต้อนรับ ผู้แทนองค์กรตำรวจสากล ผู้แทนรัฐบาลแคนาดา ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 ( ส่วนหน้า) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ กล่าวว่าปัจจุบันการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งภัยที่เกิดจากพิบัติภัยธรรมชาติ อุบัติภัย และภัยจากการก่อการร้าย จากเหตุการณ์กรณีพิบัติภัยเมื่อพ. ศ. 2547 ที่เกิดขึ้นในชายฝั่งอันดามันของประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากรัฐบาลไทยเห็นความสำคัญ ในการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล จึงได้จัดตั้งกลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลขึ้น ในสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจสำนักงานแห่งชาติ เป็นครั้งแรก มีการจัดฝึกอบรมหลักสูตรพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ให้แก่บุคลากรในสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถมาอย่างต่อเนื่อง ในระดับภูมิภาคอาเซียน ตำรวจอาเซียนได้ร่วมกันจัดตั้งเครือข่ายนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจอาเซียนขึ้น โดยมีมติที่ประชุมให้มีการฝึกอบรมร่วมกัน 10 ประเทศ ในเรื่องการตรวจสถานที่เกิดเหตุและการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล องค์การตำรวจสากลเล็งเห็นความสำคัญของการฝึกอบรม หลักสูตรต่างๆ จึงร่วมเป็นเจ้าภาพกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดวิทยากรมาให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติโดยมีรัฐบาลแคนาดาให้การนับสนุนด้านงบประมาณ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า การฝึกอบรมครั้งนี้เป็นการพัฒนาเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานเอกลักษณ์บุคคลของประเทศอาเซียนให้มีความรู้ความสามารถ ยกระดับการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ของตำรวจอาเซียนให้ทันสมัย มีมาตรฐานที่เป็นสากล รวมทั้งสร้างเครือข่ายการทำงานประเทศเป็นความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงนี้ อยู่ระหว่างการปฏิรูปองค์กรตำรวจ ในการที่จะยกระดับ การบริการประชาชน ของสถานีตำรวจ เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นศรัทธาการทำงานของตำรวจให้มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้พยานหลักฐาน ทางนิติเวชศาสตร์ เพื่ออำนวยความยุติธรรมทางอาญา ทำให้ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง สำหรับรับการฝึกอบรมครั้งนี้เป็นการแสวงหาความรู้ใหม่ๆ แลกเปลี่ยนสบการณ์ซึ่งกัน เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ต่างๆที่ได้รับไปปรับใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอขอบคุณองค์การตำรวจสากล รัฐบาลแคนาดา ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ที่ร่วมกันจัดอบรมหลักสูตรที่เป็นประโยชน์นี้ขึ้น