สร้อยเพ็ชร ดอดพบตำรวจกองปราบ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โต้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อ้างถูกหลอกยืมบัตรประชาชน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) น.ส.สร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ อายุ 27 ปี ชาว จ.เลย บุคคลที่ น.ส.จริยาภรณ์ นำชื่อไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารและแอบอ้างตัวกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้แต่งงานด้วย พร้อมด้วยแฟนหนุ่ม ได้เดินทางมาติดต่อเข้าพบ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก. 2 บก.ป. และ ร.ต.อ.ศรสุพรรณ อดทนศรีอนันต์ รองสว. (สอบสวน) กก.2 บก.ป เพื่อเข้าให้ปากคำเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดย น.ส.สร้อยเพ็ชร กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ในวันนี้ เนื่องจากได้ทราบข่าวว่าตนมีชื่อไปพัวพันกับคดีที่ น.ส.จริยาภรณ์ หลอกลวงผู้เสียหายแต่งงานแล้วเชิดเงินค่าสินสอดหนี ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวก็ค่อนข้างตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำของน.ส.จริยาภรณ์ แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ารู้จักกับ น.ส.จริยาภรณ์ เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เนื่องจากมีศักดิ์เป็นญาติใกล้ชิดกัน ส่วนกรณีที่ชื่อบัญชีธนาคารที่ น.ส.จริยาภรณ์ ให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ตรงกับชื่อของตนนั้น ในส่วนนี้ตนเองก็ไม่ทราบเรื่องและที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเงินจากบุคคลแปลกหน้าโอนเข้ามาให้ในบัญชีธนาคารของตนแต่อย่างไร อย่างไรก็ตามอาจเป็นไปได้ว่า น.ส.จริยาภรณ์ อาจจะเคยนำบัตรประชาชนของตนไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารขึ้นมาใหม่ หรือทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อน น.ส.จริยาภรณ์ เคยมาขอยืมบัตรประชาชนของตนไปใช้ในการสมัครงานแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยอ้างว่าตัวเองมีอายุเกินกำหนดที่จะสมัครงานจึงจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนของตนในการสมัครงานแทน ซึ่งครั้งนั้นตนก็ไม่ได้เอะใจ เนื่องจากเห็นว่าเป็นญาติพี่น้องกัน ต่อมาตนได้ทวงถามขอคืนบัตรประชาชนแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง ตนจึงตัดสินใจไปทำบัตรประชาชนใหม่ จนกระทั่งเกิดเรื่องจึงได้เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางเจ้าหน้าที่และไม่คิดว่าญาติพี่น้องกันจะทำกันแบบนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.สร้อยเพ็ชร อย่างละเอียดเพื่อนำไปใช้ประกอบสำนวนคดี จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการสอบสวนพอสมควร