จากกรณีกลุ่ม Watchdog Thailand หรือ WDT และบริษัทรับขนส่งสุนัขได้เข้าพบพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสาร เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนักศึกษาแพทย์ หลังวางยาสุนัขเพื่อเรียกเอาเงินประกันจากบริษัทขนส่ง ในข้อหาพยายามฉ้อโกง และตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมานั้น เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 กันยายน พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ส่งไปยังภูมิลำเนาของนายภัทรพงศ์ ทรงทรัพย์กุล ในจ.นครราชสีมา โดยให้นายภัทรพงศ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันจันทร์ที่ 18 กันยายน เวลา 10.00. น. อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้พยายามประสานไปยังนักศึกษาแพทย์ให้เข้ามาให้ปากคำ แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ ในเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดในข้อหาพยายามฉ้อโกง เพราะมีการหลอกลวงแล้วแต่ยังไม่ได้เงินไป เป็นความผิดที่เกิดขึ้นสำเร็จแล้ว ส่วนข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ทางกลุ่ม Watchdog Thailand ได้เข้ามาแจ้งความแต่ในส่วนนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามีการทารุณกรรมสัตว์เกิดขึ้น แต่ทางตำรวจจะพยายามรวบรวมหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยได้ติดตามประวัติพนักงานโรงแรมเก่าที่ออกไปแล้วเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาหลักฐานเพิ่มว่ามีพนักงานคนใดบ้างที่อยู่โรงแรมในวันเกิดเหตุ ได้เข้าไปทำความสะอาดห้องพบเม็ดยาหล่นอยู่หรือไม่ และพบเห็นการป้อนยาหรือไม่ หากพบยาก็จะนำไปเปรียบเทียบกับยาที่พบในสุนัขตัวที่ 2 ว่าเป็นยาชนิดเดียวกัน คล้ายกัน หรือตัวยาเดียวกันหรือไม่ พ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปครบถ้วนแล้ว ทั้งบริษัทขนส่ง และเจ้าของฟาร์มสุนัข ส่วนหากนักศึกษาแพทย์จะอ้างว่ามีอาการป่วยทางจิต หากมาพบเจ้าหน้าที่ก็จะส่งตัวให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยว่าป่วยจริงหรือไม่ หากป่วยจริงก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมายที่ทางนักศึกษาแพทย์จะใช้ในการต่อสู้คดี จากการตรวจสอบประวัติอาชญากร ในเบื้องต้นยังไม่พบประวัติการก่อเหตุแต่อย่างใด สำหรับคดีของสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ทางบริษัทขนส่งได้มาแจ้งความในส่วนของสุนัขพันธุ์ ปอมเมอเรเนียนตัวแรกที่มีการซื้อจากเจ้าของฟาร์ม ก่อนจะที่จะมีกระแสข่าวว่า มีการวางยาสุนัขตัวที่2เพื่อหวังเรียกเงินประกันจากบริษัทขนส่ง ทำให้บริษัทขนส่งเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดกับนักศึกษาแพทย์คนดังกล่าว หลังมีพฤติกรรมเรียกเงินประกันจากบริษัท