วันนี้ (11 ก.ย.60) กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรจากทั่วประเทศกว่า 100 คน รวมตัวกัน เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการนำเข้าเนื้อสุกรสหรัฐฯ หลังทราบว่า คณะของกระทรวงพาณิชย์จะเดินทางไปเจรจากับสหรัฐฯ ในประเด็นนี้ โดยมีนายสุชาติ สินรัตน์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน และรักษาการที่ปรึกษาการพาณิชย์ พร้อมด้วยนางสาวบุณิกา แจ่มใส ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรุงเทพฯ
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรคัดค้านการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐฯมาตลอด ล่าสุด ดังทราบแล้วว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เชิญ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยไปเจรจาการค้าระหว่างกัน เพื่อลดการขาดดุลของสหรัฐฯ โดยมีหัวข้อการเจรจาเกี่ยวกับต้องการให้ไทยนำเข้าเนื้อสุกรสหรัฐฯ ด้วย
“วันพรุ่งนี้คณะของกระทรวงพาณิชย์จะเดินทางไปสหรัฐก่อนพวกเรามีความกังวลจึงต้องมายืนยันการคัดค้าน ณ กระทรวงพาณิชย์ในวันนี้ และขอย้ำว่าเนื้อสุกรจากสหรัฐมีการใช้สารเร่งเนื้อแดง (แร็คโตปามีน) อย่างกว้างขวาง แต่สารดังกล่าวเป็นสารต้องห้ามตามบัญญัติและกำหนดบทลงโทษในกฎหมายไทยของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุข สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจึงขอให้รัฐบาลไทยยืนยันการห้ามนำเข้าเนื้อสุกรที่มีสารเร่งเนื้อแดงอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องประชาชนผู้บริโภคชาวไทย และปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทางการเกษตรที่เป็นรากฐานและเสาหลักของประเทศ" นายสุรชัยกล่าว และว่า
ในรอบ 10 ปี ภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับต่ำ จนรัฐบาลต้องผลักดันโครงการไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้ประเทศก้าวข้ามการมีรายได้ระดับกลางของประชากร ซึ่งในสภาพความเป็นจริงภาคเกษตรของไทยจากการประเมินของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งว่ายังอยู่ในระดับ 1.4-1.7 เท่านั้น ในขณะที่ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูงขึ้นในทุกปี ดังนั้น การตัดสินใจใดๆ ของรัฐบาลต้องอยู่บนพื้นฐานที่ต้องหารือกับประชากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มิใช่จะตัดสินใจใดๆ โดยไม่มีการพิจารณาที่รอบด้าน ซึ่งจะเป็นการทำลายโครงสร้างระบบเศรษฐกิจหลักของประเทศ โครงสร้างการประกอบอาชีพของสังคมที่ขาดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งสุ่มเสี่ยงเกินกว่าการจะเยียวยาแก้ไข
“สมาคมฯ และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ ยืนยันว่าขอคัดค้านการนำเข้าสุกรสหรัฐฯอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้การตัดสินใจในเรื่องนี้ทำลายเศรษฐกิจของประเทศ ทำลายผู้เลี้ยงสุกร และทำลายสุขอนามัยของคนในชาติ” นายสุรชัย กล่าวทิ้งท้าย
“วันพรุ่งนี้คณะของกระทรวงพาณิชย์จะเดินทางไปสหรัฐก่อนพวกเรามีความกังวลจึงต้องมายืนยันการคัดค้าน ณ กระทรวงพาณิชย์ในวันนี้ และขอย้ำว่าเนื้อสุกรจากสหรัฐมีการใช้สารเร่งเนื้อแดง (แร็คโตปามีน) อย่างกว้างขวาง แต่สารดังกล่าวเป็นสารต้องห้ามตามบัญญัติและกำหนดบทลงโทษในกฎหมายไทยของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุข สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจึงขอให้รัฐบาลไทยยืนยันการห้ามนำเข้าเนื้อสุกรที่มีสารเร่งเนื้อแดงอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องประชาชนผู้บริโภคชาวไทย และปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทางการเกษตรที่เป็นรากฐานและเสาหลักของประเทศ" นายสุรชัยกล่าว และว่า
ในรอบ 10 ปี ภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับต่ำ จนรัฐบาลต้องผลักดันโครงการไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้ประเทศก้าวข้ามการมีรายได้ระดับกลางของประชากร ซึ่งในสภาพความเป็นจริงภาคเกษตรของไทยจากการประเมินของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งว่ายังอยู่ในระดับ 1.4-1.7 เท่านั้น ในขณะที่ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูงขึ้นในทุกปี ดังนั้น การตัดสินใจใดๆ ของรัฐบาลต้องอยู่บนพื้นฐานที่ต้องหารือกับประชากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มิใช่จะตัดสินใจใดๆ โดยไม่มีการพิจารณาที่รอบด้าน ซึ่งจะเป็นการทำลายโครงสร้างระบบเศรษฐกิจหลักของประเทศ โครงสร้างการประกอบอาชีพของสังคมที่ขาดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งสุ่มเสี่ยงเกินกว่าการจะเยียวยาแก้ไข
“สมาคมฯ และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ ยืนยันว่าขอคัดค้านการนำเข้าสุกรสหรัฐฯอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้การตัดสินใจในเรื่องนี้ทำลายเศรษฐกิจของประเทศ ทำลายผู้เลี้ยงสุกร และทำลายสุขอนามัยของคนในชาติ” นายสุรชัย กล่าวทิ้งท้าย