PEA ครบรอบ 57 ปี ภายใต้นโยบายการบริหารและพัฒนา PEA สู่การเป็น การไฟฟ้าแห่งอนาคต เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 ก.ย.60 นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA เป็นประธานแถลงข่าวเนื่องในโอกาสวันสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ครบรอบ 57 ปี ภายใต้นโยบายการบริหารและพัฒนา PEA สู่การเป็น การไฟฟ้าแห่งอนาคต (The Electric Utility of the Future) เป็นปีแห่งความปลอดภัยในการทำงาน มุ่งเน้น “พัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี” โดยมีคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชั้น 23 อาคาร LED สำนักงานใหญ่ PEA กรุงเทพฯ ตลอดระยะเวลา 57 ปีที่ผ่านมา PEA มุ่งมั่นให้บริการพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดทั้งในด้านคุณภาพและบริการ ปัจจุบัน PEA มีพื้นที่การให้บริการ 74 จังหวัด สำนักงานให้บริการรวมกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ จำนวนสถานีไฟฟ้า 546 แห่ง ระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูงประมาณ 306,132 วงจร-กิโลเมตร รองรับลูกค้ากว่า 19 ล้านราย ซึ่งมีความต้องการใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุดรวม 21,210.26 เมกะวัตต์ ผลประกอบการในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 PEA กำไรสุทธิ 15,357 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าจะมีกำไรสุทธิรวมตลอดทั้งปี 2560 ประมาณ 24,917 ล้านบาท ในปีนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ดังนี้ - รางวัลพัฒนาศูนย์ราชการสะดวก จากสำนักนายกรัฐมนตรี - รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2560 ด้านการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่นและรางวัล การดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ - รางวัล Special Achievement in GIS Award (SAG Award) ประจำปี 2560 ในงาน ESRI USER Conference 2017 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา - รางวัลองค์กรดีเด่น ด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อสังคม จากสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย - รางวัลประกาศเกียรติคุณศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการโดดเด่นให้แก่ศูนย์ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของ กฟภ. 46 หน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์การประเมินขั้นสูง จากสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี - รางวัลประกาศเกียรติคุณ “บุคคลต้นแบบ” ด้านการมีส่วนร่วมส่งเสริมธรรมาภิบาลและต่อต้านการทุจริตในองค์กร ประจำปี 2560 จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) - รางวัลดีเลิศ แผนงานยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน (ด้านความโปร่งใส) จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) - รางวัลดีเลิศ แผนงานยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน (ด้านความปลอดจากการทุจริตในการปฏิบัติงาน) จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) - รางวัล 2ND Place และรางวัล People’s Choice จากงาน Smart Energy Hackathon Southeast Asia - ได้รับการรับรองเป็นอาคารเขียวตามมาตรฐาน Leadership in Energy & Environmental Design Existing Buildings : Operations and Maintenance (LEED EBOM) จาก U.S. Green Building Council (USGBC) ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน2 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี ในระดับ Gold และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ในระดับ Certified ซึ่งเป็นองค์กรภาครัฐแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองอาคารเขียวตามมาตรฐาน LEED EBOM ในระดับ Gold ก้าวต่อไปของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในยุค PEA 4.0 เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมพัฒนาบุคลากร รองรับการเปลี่ยนแปลงและธุรกิจใหม่ พัฒนากระบวนการทำงานที่รองรับยุคดิจิทัลมีมาตรฐานงานบริการที่เป็นเลิศ มีระบบไฟฟ้าที่ทันสมัย มั่นคง เชื่อถือได้ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยมีโครงการและแผนงานที่สำคัญ อาทิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้วิจัยและพัฒนาต้นแบบแพลทฟอร์ม ระบบบริหารและจัดการพลังงานอัจฉริยะ (PEA HiVE Platform) เป็นแพลตฟอร์มระบบบริหารและจัดการพลังงานสำหรับบ้านพักอาศัยที่นอกจากจะสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและรองรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ยังสามารถจัดการพลังงานให้สอดคล้องกับพลังงานไฟฟ้าจาก Solar PV Rooftop และสามารถตรวจสอบ ติดตาม ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งจากในและนอกบ้าน ส่งผลให้ผู้ติดตั้งใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่และคุ้มค่ามากที่สุด การเปิดตัวธุรกิจ EV Charging Station ในส่วนภูมิภาค ให้บริการสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นำร่องที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา และมีแผนสร้างสถานีอัดประจุในเส้นทางหลักสู่เมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 5 เส้นทาง จำนวน 11 แห่ง โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่ง PEA ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการในวงเงินลงทุน 1,069 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ปี 2560-2563 โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Micro-Grid) ที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เงินลงทุน 265 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ปี 2560-2562 โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ (คฟม.) ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยจำนวน 131,629 ครัวเรือน (สถานะมิถุนายน 2560) ใช้งบประมาณรวม 3,687 ล้านบาท โดยขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่แล้ว จำนวน 124,281 ครัวเรือน (93.67 % ของเป้าหมายทั้งโครงการ) การจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของ กฟภ. โดยลงนามสัญญาให้บริการพาดสายและหรือติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมกับหน่วยงานพันธมิตร เพื่อบริหารจัดการการให้บริการและสามารถตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานได้อย่างเป็นระบบ รองรับเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อภูมิทัศน์ที่ดี ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 จำนวน 4 พื้นที่ มีจังหวัดเชียงราย นราธิวาส นครพนมและกาญจนบุรี ใช้งบประมาณรวม 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการฯ ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 การพัฒนาพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดระยอง เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตและเพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้า อาทิ โครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ระยะที่ 3 (คชฟ.3) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์สั่งการจ่ายไฟ (คปศ.) โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ระยะที่ 1 การอำนวยความสะดวกและรวดเร็วในงานบริการให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย อาทิ สำนักงาน PEA , PEA Shop , PEA Mobile Shop ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟ 1129 PEA Call Center อีเมล [email protected] เว็บไซต์ www.pea.co.th ซึ่งเชื่อมโยงไปยัง Social Media ของ PEA ได้แก่ Facebook , Twitter , YouTube , Instagram นอกจากนี้ ยังมี PEA Mobile Application และ PEA Line Application บริการประชาชนด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายตอบสนองความต้องการได้รวดเร็วและ มีประสิทธิภาพ และสุดท้าย การดำเนินงานด้าน CSR เพื่อการเติบโตคู่กับสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินโครงการ อาทิ - โครงการ 74 ชุมชน ปลอดภัยใช้ไฟ PEA - โครงการ PEA ห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ มอบอุปกรณ์การแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั่วประเทศ - โครงการ PEA ใส่ใจทุกชีวิต บริจาคโลหิต 10 ล้านซีซี  - โครงการปล่อยช้างคืนสู่ป่า - โครงการ PEA รวมใจประชารัฐ รักษ์น้ำ สร้างฝาย 65 ฝาย  นอกจากนี้ ยังได้ร่วมโครงการ “มหาดไทย 5 รัฐกิจสัมพันธ์ รวมพลังสร้างสุขให้ประชาชน” ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 5 แห่ง ได้แก่ กฟภ. กฟน. กปน. กปภ. และองค์การตลาด กับ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดฝึกอบรมหลักสูตร “การตัดต้นไม้ให้ถูกต้องตามหลักรุกขกรรม” เทคนิคการตัดต้นไม้ การปฏิบัติเรื่องความปลอดภัยในการตัดต้นไม้ใกล้แนวระบบไฟฟ้า รวมถึงร่วม “โครงการเยาวชนกับการอนุรักษ์พลังงาน” ภายใต้บันทึกข้อตกลงโครงการความร่วมมือด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ระหว่าง 3 การไฟฟ้า ปี 2558-2560 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานไฟฟ้าแก่เยาวชนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างจิตสำนึกที่ดี ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างรู้คุณค่าและปลอดภัย ในปี 2560 PEA ยังจัดทำโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าส่องสว่างพร้อมติดตั้งหลอดประหยัดไฟ LED ให้กับโบราณสถานที่มีชื่อเสียง 9 แห่ง ทั่วประเทศ และเนื่องในโอกาสเดือนกันยายนเป็นเดือนแห่งการสถาปนาครบรอบ 57 ปี PEA จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมด้านวิชาการ นวัตกรรม ความปลอดภัยในการทำงานและจัดการแข่งขันกีฬา PEA มินิมาราธอน