นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการรื้อย้ายบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณชุมชนราชผาทับทิม และชุมชนมิตตคาม 1 เขตดุสิต โดยมีนายไทวุฒิ ขันแก้ว รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา นายบรรลือ สุกใส ผู้อำนวยการเขตดุสิต พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตดุสิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็เพื่อติดตามการรื้อย้ายบ้านรุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณชุมชนราชผาทับทิม มีบ้านรุกล้ำ 20 หลัง รื้อย้ายแล้ว 8 หลัง รื้อเพิ่มอีก 7 หลัง และชุมชนมิตตคาม 1 มีบ้านรุกล้ำ 71 หลัง เริ่มรื้อย้าย 5 หลัง ซึ่งที่ผ่านมาสำนักการโยธาและสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เขตดุสิต เขตบางซื่อ และเขตบางพลัด ได้ลงพื้นที่พูดคุยเจรจากับประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งประชาชนในชุมชนทั้ง 14 ชุมชน พร้อมให้ความร่วมมือในการรื้อย้ายบ้านที่รุกล้ำออกไป เพื่อร่วมกันปรับภูมิทัศน์บริเวณริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดและสวยงาม โดยกรุงเทพมหานครได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว กรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาความยาวรวมทั้ง 2 ฝั่ง ประมาณ 14 กม. มีบ้านเรือนประชาชนรุกล้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 282 หลัง เป็นบ้านเรือน 273 หลัง ท่าเทียบเรือและโป๊ะ 9 แห่ง แบ่งเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนรุกล้ำทั้งหมด 14 ชุมชน ซึ่งชุมชนที่ให้ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และได้ดำเนินการรื้อย้ายออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว จำนวน 7 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนปากคลองบางเขนใหม่ ชุมชนท่าเรือเกียกกาย ชุมชนเขียวไข่กา ชุมชนวัดเทวราชกุญชร ชุมชนวัดคฤหบดี ชุมชนวัดฉัตรแก้วจงกลณี และซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/1 ส่วนชุมชนที่ดำเนินการรื้อย้ายออกไปแล้วบางส่วน ได้แก่ ชุมชนวัดสร้อยทอง ชุมชนสีคาม ชุมชนราชผาติการาม ชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ ชุมชนราชผาทับทิม ชุมชนมิตตคาม 1 ชุมชนมิตตคาม 2 และสถานีดับเพลิงบวรมงคล โดยรวมแล้วขณะนี้กรุงเทพมหานครสามารถดำเนินการรื้อย้ายบ้านที่รุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้แล้วทั้งหมด 104 หลัง คงเหลือ 178 หลัง