สภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยคณะกรรมการด้านปศุสัตว์ จัดโครงการประชุมสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็น และชี้แจง สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อ “ ร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการโคเนื้อแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... ” โดยมีผู้แทนจากหลายกลุ่มอาชีพ สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย องค์กรส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) เข้าร่วมสัมมนา ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กรุงเทพฯ นายวิทยา ประจันตะเสน ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านปศุสัตว์ สภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็น 2 ลักษณะ คือ ความจำเป็นที่จะร่างกฎหมายเป็นระดับพระราชบัญญัติ กับถ้าต้องการให้ออกเป็นกฎหมายได้เร็ว ควรเป็นพระราชกฤษฎีกาได้หรือไม่ ซึ่งมองว่าจัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กรขึ้นมาดูแลโคเนื้อและทำลักษณะโคนมออกมาเป็นพระราชกฤษฎีกาความเป็นไปได้จะง่ายกว่า ในส่วนของเนื้อหาสาระมีการแสดงความคิดเห็นในมุมกว้างๆ อาทิ ขอบเขตของกฎหมายที่อยากให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การเลี้ยง ขยายพันธุ์ ดูแลพันธุ์ รวบรวมพันธุ์ การตลาด การแปรรูป ด้านการนำเข้าโคเพื่อการบริโภคจากต่างประเทศควรเป็นระดับตลาดทั่วไป รวมถึงโคนม แพะ แกะ และกระบือ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ควรครอบคลุมถึงการปศุสัตว์ การพัฒนาโคเนื้อให้สมบูรณ์ควรมีเครื่องมือในการพัฒนา เช่น คณะกรรมการวางยุทธศาสตร์ หรือหน่วยงานที่ดูแล ส่งเสริม สนับสนุนโดยเป็นหน่วยงานที่นำนโยบายหรือองค์ความรู้ที่กรมปศุสัตว์มีอยู่นำมาดูแลเกษตรกรกันเอง ขณะที่โคเนื้อที่ใช้เพื่อการบริโภคมีระดับตลาดทั่วไป และตลาดระดับราคาสูง เห็นควรมีกองทุนรักษาเสถียรภาพ เพื่อดูแลความมั่นคงรวมทั้งความเสียหายด้วย ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านปศุสัตว์ กล่าวว่า ทั้งนี้ โดยสรุปเบื้องต้นผู้เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นมีมติร่วมกันว่า ควรออกกฎหมายมาในชั้นระดับพระราชบัญญัติ และขั้นตอนต่อไป คือ เสนอสภาเกษตรกรแห่งชาติเพื่อรับทราบ ก่อนดำเนินการเสนอไปทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีนายพรศักดิ์ เจียรณัย โฆษกคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาผลผลิตทางการเกษตร รับเป็นผู้ประสานงานดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป