วันที่ 19 ก.ย.พลเอก อภิชาต แสงรุ่งเรือง ประธานกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เข้ารายงานตัวต่อ พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในทันทีที่ ครม. มีมติเมื่อวันที่12 กันยายน ที่ผ่านมา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน โดยภายหลังเข้าร่วมประชุมกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ เป็นองค์การมหาชนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้เป็นไปด้วยความคล่องตัว รวดเร็ว ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เพราะการป้องกันให้คนทำงานปลอดจากเหตุที่จะทำให้เกิดการประสบอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย อันเนื่องจากการทำงานเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง พลเอก อภิชาต แสงรุ่งเรือง กล่าวเพิ่มเติมว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญ ต่อการดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานเป็นอย่างมาก ต้องการให้แรงงานได้ทำงาน ในสภาพแวดล้อมที่ดี รู้เท่าทันอันตรายและวิธีการป้องกัน มีสำนึกความปลอดภัยและวินัยในการทำงาน ซึ่งก็เป็นบทบาทหน้าที่ของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ ที่จะต้องรับมาวางกลยุทธ์ ในการขับเคลื่อนงานตามอำนาจหน้าที่ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว โดยพลเอก อภิชาต แสงรุ่งเรือง กล่าวว่า ในการเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมความปลอดภัยฯ เป็นการเข้ามาช่วงกลางวาระของคณะกรรมการ ซึ่งจะมีเวลาทำงานเพียงปีเศษๆ ก็จะมาช่วยกำกับดูแลให้องค์กรนี้มีการจัดการภายในที่เข้มแข็ง เพื่อให้มีศักยภาพในการทำบทบาทหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ในการเป็นหน่วยงานเชิงวิชาการ และให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการบริหารจัดการงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศ แก่รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ และด้วยข้อจำกัดของการเป็นหน่วยงานตั้งใหม่ สถาบันฯต้องทำงานโดยประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และภาคีเครือข่าย ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดมาตรฐานและงานวิจัยที่มาจากการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง เป็นที่ยอมรับ น่าเชื่อถือ และถูกนำไปสู่การปฏิบัติ โดยความร่วมมือจากภาคเครือข่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ขยายผลการสร้างการรับรู้ในรูปแบบที่เข้าถึงการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งในเวทีระดับชาติและนานาชาติ และอย่างน้อยในช่วง 1 ปีของการทำหน้าที่ประธานบอร์ดจะดูแลให้สถาบัน มีการขับเคลื่อนงานส่งเสริมความปลอดภัยฯตาม Roadmap ที่วางไว้อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ปฏิบัติได้และสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของประเทศ โดยจะปฏิบัติงานเคียงคู่ไปกับกรมสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยบังคับใช้กฎหมายด้านความปลอดภัยในการทำงานของกระทรวงแรงงาน เพื่อพัฒนางานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศให้มีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด แก่คนทำงานทุกสาขาอาชีพและมีความยั่งยืนจนเกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยในที่สุด