การจัดระเบียบแผงค้าห้ามค้าขายบนทางเท้าทั่วพื้นที่กทม.เพื่อคืนพื้นที่สัญจรให้กับประชาชน ได้ส่งผลกับบรรดาผู้ค้าผู้ขาย รวมทั้งคนที่ต้องฝากท้องไว้กับอาหารนอกบ้านริมทางที่หากินง่าย ราคาไม่แพงนัก ท่ามกลางการเรียกร้องของผู้ค้าให้เปิดพื้นที่ค้าขายเพื่อเยียวยาความเดือดร้อนจากผลกระทบดังกล่าว กทม.จึงได้จัดพื้นที่รองรับให้กับผู้ค้าอาหารใน 4 จุดที่เหมาะสม ประกอบด้วย บริเวณข้างห้างสรรพสินค้าโลตัส ใกล้สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน, ลานจอดรถข้างสวนลุมพินี ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาฯ เขตปทุมวัน, หน้าภัตตาคารกุ้งหลวง ถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย และซอยข้างโรงพยาบาลเจ้าพระยา โดยจัดเป็น “แหล่งอาหารชุมชน กทม. สะอาด อร่อย และประหยัด” อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ซื้ออาหารราคาถูก อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ค้าได้มีพื้นที่ขายของ สำหรับจุดข้างโลตัส ใกล้สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มีพื้นที่ 1,000 ตร.ม. รองรับได้ 84 แผงค้า ขายได้ 3 รอบ เช้า กลางวัน เย็น, ลานจอดรถข้างสวนลุมพินี พื้นที่ 500 ตร.ม. รับได้ 72 แผง ส่วนที่หน้าภัตตาคารกุ้งหลวง พื้นที่ 700 ตร.ม. รับได้ 48 แผงค้า และซอยข้างโรงพยาบาลเจ้าพระยา พื้นที่ 200 ตร.ม. รับได้ 20 แผง ซึ่ง 3 จุดหลังนี้ เปิดขายได้ตั้งแต่ 04.00-15.00 น. แล้วแต่ผู้ค้า แต่เมื่อถึงเวลาต้องเก็บ พร้อมรักษาความสะอาด สำหรับผู้ค้าที่สนใจขอลงทะเบียนทำการค้าได้ที่ฝ่ายเทศกิจ เขตปทุมวัน และเขตบางกอกน้อย กรณีมีผู้ค้าสนใจเกินจำนวนแผงค้า จะจับสลากหมุนเวียนให้ขาย ซึ่งกทม.ตั้งเป้าหาพื้นที่รองรับผู้ค้าให้ได้ 10 จุดภายในก.ย.นี้ นอกจากนี้ ธนาคารออมสินยังจะได้สนับสนุนอุปกรณ์ร้านค้าทุกจุดที่จะเปิดขาย อาทิ เก้าอี้ โต๊ะ ผ้าปูโต๊ะ ร่ม เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย-สะอาด ขณะพื้นที่อื่นที่เหมาะสมจะทยอยเปิดต่อไป อาทิ สวนป่าวิภาวดีฯ เขตดินแดง, หน้าสำนักงานเขตบางนา