“Wind Energy” เลือก “Vestas” ลุยธุรกิจโครงการ “กังหันลมสูงที่สุดในภูมิภาค” รุ่น V136-3.0 MW จำนวน 60 ต้นในไทย คาดติดตั้งปลายปี60 พร้อมใช้กลางปี 61 นายนพ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหารWind Energy Holding เปิดเผยว่า Wind Energy Holding ได้ตกลงสั่งซื้อกังหันลมรุ่น V136-3.0 MW จำนวน 60 ต้นในประเทศไทย ซึ่งมีระดับความสูงถึง 157 เมตร โครงการนี้จะเป็นโครงการที่มีกังหันที่ลมสูงที่สุดในภูมิภาคนี้ เพื่อใช้ในโครงการ ที2 ทรอปิคอล วินด์ ฟาร์ม (T2 Tropical Wind Farm) และโครงการ ที3 เคอาร์เอส ทรี วินด์ ฟาร์ม (T3 KRS Three Wind Farm) โดยกังหันลมทั้งหมดจะถูกติดตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาและชัยภูมิ นอกจากการสั่งซื้อจะรวมถึงเรื่องการจัดส่ง การติดตั้งกังหันลม ยังรวมไปถึงสัญญาการบริการด้านการจัดการผลิตพลังงานหรือ Active Output Management 4000 (AOM4000) ซึ่งมีระยะเวลา 15 ปี ซึ่ง Vestas ได้การันตีถึงความพร้อมในการผลิตและประสิทธิภาพชั้นสูง โดยมีระบบ Vestas Online® Business มาใช้ในการกำกับดูแล เก็บข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Vestas “ข้อตกลงทางด้านการเงินในโครงการที2 และที3 ของเราที่ใกล้จะสำเร็จ แสดงให้เห็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Wind Energy Holding ในการมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีความยินดีที่จะได้มีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันการใช้พลังงานทดแทนในประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าVestas จะเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่จะช่วยไปสู่เป้าหมาย” นางEmma Collins ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Wind Energy Holding กล่าว Vestas และเทคโนโลยีชั้นนำในการผลิตไฟฟ้าจากความเร็วลมต่ำ คือหุ้นส่วนที่ได้เลือกร่วมงานด้วยทั้ง 2 โครงการ ศักยภาพกังหันลมของ Vestas จะทำให้สามารถเพิ่มการผลิตพลังงานได้อย่างสูงสุดในโครงการ ที2 และ ที 3 พร้อมกับช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้อย่างสูง ซึ่งพร้อมที่จะร่วมธุรกิจกับ Vestas อีกในอนาคต นายClive Turton ประธานกรรมการ Vestas Asia Pacific กล่าว Wing Energy Holding เป็นผู้ดำเนินงานโครงการกังหันลมรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการที่ได้ถูกเลือกในครั้งนี้ คือบทพิสูจน์ถึงผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่ตั้งใจนำเสนอในประเทศไทย ด้วยความสำเร็จมากมายในภูมิภาคนี้ และความสามารถในการสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดกับสภาพแวดล้อมที่มีความเร็วลมต่ำของประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอพลังงานต้นทุนต่ำและความมั่นคงทางธุรกิจตามที่ตลาดต้องการ คาดว่าจะเริ่มขนส่งกังหันลมในช่วงปลายปี พ.ศ. 2560 และน่าจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี พ.ศ. 2561