บริษัท สเตรกา จำกัด (มหาชน) นำโดย พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช, คุณหลุยส์ เตชะอุบล ​​ และ คุณพิพัฒน์ สุวรรณะชฎ ​​ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STREGA ถือฤกษ์ดี จัดพิธีเปิดงานก่อสร้างโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ (NFPT) ณ จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีหม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล และคุณลอยเลื่อน บุนนาค จากบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด​ ร่วมลงนามและทำพิธีเปิดร่วมกัน งานนี้ถือเป็นอีกก้าวความสำเร็จหนึ่งของ STREGA กับโครงการที่มีมูลค่าโครงการกว่า 3,300 ล้านบาท บริษัท สเตรกา จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเซ็นสัญญาโครงการขยายท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ (NFPT) ร่วมกับ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ซึ่งดำเนินการลงทุน ก่อสร้าง และบริหารโครงการขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ FPT มีความประสงค์จะก่อสร้างระบบท่อขนส่งน้ำมันจากคลังน้ำมันบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ (NFPT) เพื่อขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อไปยังคลังน้ำมัน จ.ลำปาง ระยะทางการก่อสร้างรวม 600 ก.ม. โดยมีการก่อสร้างด้วยรูปแบบการขุดเปิดหน้าดิน (Open Cut) และการขุดเจาะแบบไม่เปิดหน้าดิน (Horizontal Directional Drilling: HDD) โดยจะใช้ระยะเวลาแล้วเสร็จ 24 เดือน โครงการแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การก่อสร้างระบบท่อขนส่งน้ำมันจากคลังน้ำมันบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และ ระยะที่ 2 ขยายแนวท่อจาก จ.กำแพงเพชร ไปตามแนวเขตทางของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท สเตรกา จำกัด มหาชน (STREGA) ประกาศเซ็นสัญญาความร่วมมือกับ บริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ บูโร (CPP) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ China National Petroleum Corporation (CNPC) ในการโครงการขุดเจาะท่อขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ (Nothern Fuel Pipline Transportation Project : NFPT) บริษัท สเตรกา จำกัด มหาชน (STREGA) และ บริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ บูโร จะร่วมมือกันทำการขุดเจาะวางท่อขนส่งน้ำมัน อันจะช่วยลดปัญหาในการจราจร สิ่งแวดล้อม และความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากขนส่งน้ำมันทางรถ ปัจจุบันการขนส่งน้ำมันไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ใช้การขนส่งผ่านทางรถไฟ เรือ และรถยนต์บรรทุก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง สิ้นเปลืองพลังงาน ก่อให้เกิดปัญหาในการจราจรและสิ่งแวดล้อมอีกทั้งมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จากยุทธศาสตร์และแนวนโยบายของรัฐบาลต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ให้มีการเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น กรมธุรกิจพลังงานจึงได้ทำการศึกษาส่งเสริมให้มีการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งของประเทศ การร่วมงานกับ บริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ บูโร ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท CNPC ที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 3 ใน Fortune Global 500 เป็นตัวการันตีได้ว่า การร่วมมือขุดเจาะวางท่อจะมีประสิทธิภาพสูงอย่างแน่นอน คุณพิพัฒน์ สุวรรณะชฎ อดีตผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งเพิ่งเข้ามาร่ามงาน บริษัท สเตรกาฯ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ความสามารถสูง อีกทั้ง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สามารถที่จะบริหาร และนำพาให้บริษัทก้าวไกลสู่อนาคตที่สดใสต่อไป