ตำรวจนำรถเก๋งต้องสงสัยที่คาดว่าใช้พา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบื้องต้นพบเป็นรถที่มีการดัดแปลงสภาพและมีร่องรอยคล้ายเคยติดสติ๊กเกอร์ตราโล่ห์มาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำอุปกรณ์เข้าเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือและดีเอ็นเอภายในรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีเทา ทะเบียน ฌข 5323 กรุงเทพ โดยมี พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ ร่วมสังเกตการณ์ โดยรถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยที่ปรากฎตามภาพวงจรปิด บริเวณด่านทหาร จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เวลา 22 นาฬิกา 7 นาที ที่มีข้อมูลทางการสืบสวนระบุว่าเป็นรถที่ใช้พาตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่หลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าว หลบหนีไป โดยฝ่ายสืบสวนได้ตามแกะรอยรถต้องสงสัยดังกล่าว กระทั่งมาพบรถจอดใกล้กับบ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ขณะที่การตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นรถสวมทะเบียน โดยหมายเลขเครื่อง ตัวถัง และทะเบียนรถ ปรากฎชื่อผู้ครอบครองไม่ตรงกัน โดยกรมการขนส่งทางบก แจ้งระงับการใช้งานรถคันดังกล่าว ปี 2555 เนื่องจากขาดส่งไฟแนนซ์ ส่วนภายในรถไม่พบมีเอกสารและหลักฐานสำคัญเก็บอยู่ ส่วนผลการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นมีรายงานข่าวว่า เป็นการเก็บรวบรวมดีเอ็นเอไปคัดแยกกลุ่มตัวอย่าง เช่น แยกเป็นกลุ่มเพศ เก็บรักษาไว้ เพื่อรอนำดีเอ็นเอดังกล่าวไปเปรียบเทียบกับบุคคลต้องสงสัย ขณะเดียวกันยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีดีเอ็นเอสมบูรณ์ภายในรถทั้งหมดกี่ชุด เนื่องจากมีหลายองค์ประกอบในการทำให้ดีเอ็นเอไม่สมบูรณ์ เช่น ความร้อน สภาพการนำรถไปเก็บรักษา รวมไปถึงบุคคลที่อาจใช้รถคันดังกล่าวหลังจากพาอดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่ว่าจะมีการทำลายดีเอ็นเอภายในรถไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ก็อาจยังมีดีเอ็นเอหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถ 1 ใน 2 คัน ที่ถูกนำไปเปลี่ยนรถของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ย่านมีนบุรี ก่อนจะพาหลบหนีไปทางอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ขับออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวได้รับคำสั่งให้นำไปทำลายทิ้ง ก่อนที่ต่อมาผู้ได้รับคำสั่งจะเปลี่ยนใจนำรถคันนี้ไปเก็บรักษาไว้ เพื่อรอนำไปดัดแปลงสภาพและขายต่อ ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า ในเร็ววันนี้จะมีการเชิญผู้ที่เป็นเจ้าของรถมาสอบปากคำ เพื่อตรวจสอบว่าได้มีการแจ้งหายรถไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนกรณีของผู้ที่นำรถไปใช้ เบื้องต้นจะพิจารณาดำเนินคดีฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมและหากพบมีการแจ้งหายก็จะดำเนินคดีในความผิดฐานรับของโจรด้วย ส่วนกรณีการเข้าเก็บดีเอ็นเอบุคคลต้องสงสัยเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่ตกหล่นในรถ เบื้องต้นจะมอบหมายให้ พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน นำไปพิจารณาเรื่องการออกหมายค้น สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตร่องรอยคล้ายสติ๊กเกอร์ตราโล่ห์ที่ข้างประตูฝั่งที่นั่งด้านหน้าทั้ง 2 ฝั่ง เบื้องต้นยืนยันว่าจากการตรวจสอบรถคันนี้ไม่ใช่รถที่ใช้ในราชการตำรวจแต่อย่างใด ส่วนสติ๊กเกอร์ตั้งข้อสังเกตว่าใครก็สามารถนำไปติดได้ อย่างไรก็ตามสำหรับการสอบปากคำพยาน 3 คน เบื้องต้นยังไม่ยืนยันว่าเป็นบุคคลในเครื่องแบบหรือไม่ แต่ยอมรับว่ามีความเกี่ยวข้องกับการพานางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนี แต่ทั้งนี้การสอบสวนชายดังกล่าวก็สามารถทำได้แค่ในฐานะพยาน เนื่องจากระหว่างการพาหลบหนียังไม่มีการออกหมายจับ จึงไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำผิด และหลังจากนี้จะปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวตามกฎหมาย ทั้งนี้ในการสอบปากคำพยานมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนรวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมสังเกตการณ์ด้วย