ผู้พิพากษาชี้ ตำรวจพาปูหนี ไม่ผิดอาญา เพราะการพาหนีทำก่อนศาลออกหมายจับ หาก 27 ก.ย. นี้ยกฟ้องหมายจับสิ้นสุด วันที่ 24 ก.ย. 60 เเหล่งข่าวผู้พิพากษาจากศาลยุติธรรม กล่าวถึงข้อกฎหมายกรณีที่มีนายตำรวจพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลย อดีต โครงการรับจำนำข้าว ว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 จะเป็นความผิดต่อเมื่อศาลมีการออกหมายจับเเล้ว ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 25 ส.ค.60 ภายหลังจากที่จำเลยไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา การกระทำที่จะเป็นความผิดตามมาตรา189 จะต้องเป็นการกระทำภายหลังจากที่ศาลออกหมายจับเเล้ว ในวันที่ 25 ส.ค60 การกระทำก่อนที่ศาลออกหมายจับ ไม่เป็นความผิด ซึ่งก่อนหน้าที่จะถึงวันที่ 25 ส.ค.เป็นวันนัดส่งตัวฟังคำพิพากษาจะมีการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปที่ใดก็ได้ย่อมไม่มีความผิด หมายจับจะมีผลเริ่มตั้งเเต่วันที่ศาลออกหมายจับ จนถึงวันที่ 27ก.ย ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาลับหลัง ถ้าหลังจากวันที่ 27 ก.ย.ถ้าศาลพิพากษาลงโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ศาลก็จะออกหมายจับฉบับใหม่ ซึ่งเป็นหมายจับที่ให้นำตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์จำเลยมาลงโทษตามคำพิพากษาของศาล เเต่ถ้ายกฟ้องหมายจับที่ศาลออกไว้เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ให้นำตัวมาฟังคำพิพากษาก็จะถูกยกเลิกไป กีณีนายตำรวจที่พา น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีไปนั้น ยังไม่มีความผิดอาญาเนื่องจากเป็นการกระทำก่อนที่จะมีการออกหมายจับย่อมสามารถที่จะพาไปที่ไหนก็ได้ในประเทศ จึงไม่ถือว่าเป็นความผิด วันที่ 27 ก.ย.ซึ่งเป็นวันอ่านลับหลัง ถ้าวันนั้นยังไม่มาอีก หมายจับที่ออกวันที่ 25 ส.ค.จะยกเลิก เพราะถือว่าอ่านลับหลังไปเเล้ว เเต่ถ้ามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกก็จะออกหมายจับใหม่เพื่อนำตัวมาลงโทษ ตามคำพิพากษา ถ้ายกฟ้องหมายจับก็สิ้นสุด