พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมตรี เป็นประธานเปิดงาน ตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 2 : วิจัยขายได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นหน่วยงานหลักดำเนินการจัดงานดังกล่าว เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้นำงานวิจัยมาพัฒนาให้เกิดเป็นรูปธรรม และปัจจัยหลักสำหรับขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและประเทศไทย 4.0 โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ให้การต้อนรับ ณ ณ อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ บางรัก กรุงเทพฯ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผลงานวิจัยรวมกว่า 3 แสนผลงาน ร้อยละ 40 จากผลงานวิจัยทั้งหมดเป็นงานวิชาการ และมีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่ได้นำมาพัฒนาและใช้จริง การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นการนำสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ภาครัฐบาล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเผยแพร่งานวิจัย ไปสู่ผู้ที่ต้องการนำไปพัฒนาต่อยอดให้เป็นรูปธรรมในเชิงพาณิชย์ ที่จะสามารถมาช่วยขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้ดีขึ้น นำประเทศไทยไปสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อีกทั้งตั้งเป้าว่างานนี้จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนิสิต นักศึกษา ได้มีความสนใจที่จะเข้ามาสู่ระบบงานวิจัยให้มากยิ่งขึ้น สำหรับพัฒนาบุคลากรด้านงานวิจัยในอนาคต ด้าน ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และประเทศไทย 4.0 โดยได้มอบหมายสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ในฐานะสำนักงานเลขานุการร่วมของสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน บริหารจัดการในภาพรวมของการขับเคลื่อนการผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในมิติเชิงพาณิชย์ และมิติต่าง ๆ และได้นำร่องจัดงาน “ตลาดนัดเปิดโลกผลงานวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยพบผู้ใช้” ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 4แห่ง เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่อคณะรัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงในแต่ละกระทรวง ตลอดจนสถาบัน องค์กรและหน่วยงานภาคเอกชน ให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างหรือนำผลจากการวิจัยไปพัฒนาต่อยอด และใช้ประโยชน์ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า นอกจากนี้ วช.ได้รับมอบหมายให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในกลุ่ม ผู้สร้างสรรค์ผลิตผลงานวิจัย และกลุ่มผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัย ให้นำเสนอผลงานวิจัยในระดับที่มีความพร้อมใช้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยเป็นผลิตผลที่คัดกรอง วิเคราะห์ข้อมูลจากคลังข้อมูลงานวิจัยไทย (Thai National Research Repository: TNRR) ที่เชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูลการวิจัยของหน่วยงานทั่วประเทศ จำนวน ๑๗๒ หน่วยงาน เพื่อขยายผลไปสู่การใช้ประโยชน์ในมิติต่างๆ เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ เชิงชุมชน/สังคม เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมของประเทศ รวมถึงการผลักดันให้เกิดกลไกและกิจกรรมที่สร้างความเชื่อมโยงในรูปแบบต่างๆ ระหว่างนักวิจัย เจ้าของผลงานวิจัย และผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งเน้นความต้องการของผู้ใช้เป็นสำคัญ