26 นักกล้ามไทย ออกเดินทางสู่มองโกเลีย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก 2017 มั่นใจคว้าได้ไม่ต่ำกว่า 8 เหรียญทอง ทัพนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไทย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินแอร์ไชน่า เที่ยวบินที่ ซีเอ 980 เวลา 01.00 น.เมื่อวันที่ 3 ต.ค. (กลางดึกคืนวันที่ 2 ต.ค.) เพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก 2017 ครั้งที่ 9 ที่ กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 4-8 ต.ค.นี้ โดยมี นายภูมิวรินทร์ ชุณหะวงษ์วริศ ประธานสหพันธ์เพาะกายอาเซียน ในฐานะผู้อำนวยการทีมชาติไทย นำทัพนักกีฬา รวมถึงเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย รวม 26 คน ก่อนออกเดินทาง นายภูมิวรินทร์ ชุณหะวงษ์วริศ ประธานสหพันธ์เพาะกายอาเซียน ในฐานะผู้อำนวยการทีมชาติไทย กล่าวว่า ครั้งนี้ทีมไทยได้เก็บตัวอย่างต่อเนื่องเพราะรายการชิงแชมป์โลกรายการนี้แข่งต่อจากชิงแชมป์เอเชีย ที่ เกาหลีใต้ ทำให้ระยะเวลาการเตรียมตัวห่างกันไม่มาก “ในครั้งนี้ท่านนายกสมาคมฯ ศุกรีย์ สุภาวรีกุล ได้ตั้งเป้าเอาไว้อย่างน้อย 8 เหรียญทอง และดูจากความพร้อมของนักกีฬาตนเชื่อว่าเราจะทำได้อย่างแน่นอน สำหรับการแข่งขันในวันที่ 4-8 ต.ค.นี้ โดยนักกีฬาไทยรุ่นแรกที่จะทำการแข่งขันก็คือประเภทโมเดลหญิง” นายสมเกียรติ เกิดอนันต์ ผู้ฝึกสอนนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นักกีฬามีความพร้อมมากกว่า 90% แล้ว เนื่องจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ เป็นแมตช์ต่อเนื่องมาจากศึกชิงแชมป์เอเชีย 2017 ทำให้นักกีฬามีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี มีความเป็นมืออาชีพ การเตรียมตัวอาจจะยังมีบางคนที่มีปัญหาในเรื่องของน้ำหนักที่เกินกว่าเกณฑ์ในรุ่นของตนเอง แต่คาดว่าเมื่อเดินทางไปถึงคงจะสามารถทำน้ำหนักผ่านการชั่งในแต่ละรุ่นได้ “ส่วนเป้าหมายที่วางไว้ขนาดนี้ยังตั้งเป้าไว้ที่ 8 เหรียญทอง แต่หากได้มากกว่านั้นก็ถือว่าเป็นกำไร โดยคู่แข่งที่สำคัญนั้นมองไปที่มองโกเลีย เพราะเขาเป็นเจ้าภาพน่าจะมีการเตรียมตัวที่ดี” ขณะที่ ราชวัตร แก้วปัญญา อดีตราชายิมนาสติกทีมชาติไทย ซึ่งขณะนี้เป็นนักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไทย ล่าสุดเพิ่งไปคว้าเหรียญเงิน ในการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย 2017 ที่ เกาหลีใต้ มาได้ เปิดเผยว่า สำหรับครั้งนี้เตรียมตัวมาดีกว่าชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของกล้ามเนื้อรวมไปถึงรูทีน ซึ่งชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ถือเป็นรายการที่ตนรอคอย เพราะในการแสดงบนเวที ตนได้เตรียมมาดีมาก โดยนำพื้นฐานที่ตนมีในด้านยิมนาสติกมาใช้อย่างเต็มที่ แต่ปัญหาตอนนี้คือน้ำหนักของตนเกินเกณฑ์ในรุ่นมา 5 กิโลกรัม แต่คาดว่าน่าจะลดน้ำหนักทันในการแข่งวันที่ 7 ต.ค.อย่างไรก็ตามตนจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด