ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศไทย ตลอดจนบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีการกระทำความผิดมาพำนักอยู่ในประเทศไทย เป็นภัยต่อความมั่นคงและชื่อเสียงของประเทศชาติ โดยสั่งการให้ดำเนินคดี ถึงที่สุด หรือดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร หากพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานความร่วมมือต่างตอบแทนระหว่างกันในการติดตามจับกุมคนร้ายหนีคดีระหว่างประเทศ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รรท.รอง ผบช.สตม.(ปป) และ พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผบก.สส.สตม. โดยประสานงานกับ จนท.สอท.ต่างๆ และ กองการต่างประเทศ (ตท.) เร่งรัดการดำเนินการจนเป็นผลสัมฤทธิ์ และนำมาแถลงผลการปฏิบัติในวันนี้ (4 ต.ค.2560) ดังต่อไปนี้ รายที่ 1 จนท.กก.2 บก.สส.สตม.ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามตัวนางอิซาเอว่า บาฮอร์ เอชมามาทอฟน่า (Mrs.Isaeva Bahor Eshmamatovna) อายุ 49 ปี สัญชาติอุซเบกีสถาน ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของทางการ สาธารณรัฐอุซเบกีสถาน และถูกออกหมายแดง (Red notice) องค์การตำรวจสากล ในข้อหา เกี่ยวกับอิสรภาพเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกฎหมายค้ามนุษย์ จากการตรวจสอบพบว่า นางอิซาเอว่าฯ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน จึงได้ทำการสืบสวนร่วมกับ สอท.สาธารณรัฐอุซเบกีสถาน จนกระทั่งทราบ นางอิซาเอว่าฯ พักอาศัยอยู่คอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งพบตัวนางอิซาเอว่าฯ และได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และนำมากักตัวไว้ ณ ห้องกัก กก.๓ บก.สส.สตม.เพื่อรอการประสานงานกับ สอท.สาธารณรัฐอุซเบกีสถานและผลักดันกลับประเทศต่อไป รายที่ 2 จนท.กก.1 บก.สส.สตม.และ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันสืบสวนจับกุมนายแจ๊คสัน แมคทิว ฮอล (Mr.Jackson Matthew Hall) อายุ 26 ปี สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวตามหมายจับรัฐอลาบามา ซึ่งออกในปี 2016 (พ.ศ.2559) จำนวน 3 หมาย คือ ข้อหา ขโมยข้อมูลส่วนตัว, ข่มขืนกระทำชำเรา และ ล่วงละเมิดทางเพศ จากการตรวจสอบพบว่านายแจ๊คสันฯ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อ 23 ก.พ.2549 ทางจังหวัดสตูล ได้รับวีซ่า 30 วัน ปัจจุบันการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดแล้ว และจากการสืบสวนทราบว่า นายแจ๊คสันฯ สมัครงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษตาม โรงเรียนกับบริษัท จัดหางานแห่งหนึ่ง แต่ในระหว่างอยู่ในช่วงทดลองงานนั้น ได้ปรากฏสื่อ online เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับพฤติการณ์กระทำผิดและการติดตามหาตัวนายแจ๊คสันฯ ทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา นายแจ๊คสันฯ จึงได้ หลบซ่อนตัวมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2560 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งย่านหนองแขมซึ่งเชื่อว่าเป็นที่หลบซ่อนตัว และได้ทราบข้อมูลว่า นายแจ๊คสันฯ ได้หลบไปซ่อนตัวที่ เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้ทำการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด สุราษฎร์ธานี ถึงแหล่งซ่อนตัวและสามารถจับกุมตัวนายแจ๊คสันฯ ได้บริเวณท่าเรือซีทรายเฟอรร์รี่ ในช่วงเย็น วันเดียวกัน เบื้องต้น ดำเนินคดีในข้อหา เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และกักตัวไว้ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการผลักดันออกไปนอกราชอาณาจักร ต่อไป รายที่ 3 เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2560 จนท.กก.3 บก.สส.สตม.ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามตัว นายสตีเฟน บิสชอป ฮอล (Mr.Stephen Bishop Hall) อายุ 42 ปี สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวตามหมายจับ รัฐฟลอลิดาซึ่งออกในปี 2009 (พ.ศ.2522) ในความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายและครอบครองยาเสพติด(โคเคน) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายสตีเฟนฯ เดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง โดยเคยได้รับ ใบอนุญาตทำงานประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเกี่ยวกับ อุปกรณ์และเครื่องแต่งกายสำหรับขับขี่รถจักรยานยนต์ย่านลาดพร้าว ปัจจุบันอยู่ในประเทศไทยโดยได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว โดยเดินทางเข้ามาครั้งสุดท้ายทางด่าน ตม.จ.หนองคาย ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 4 ต.ค.2560 เบื้องต้นจึงมีคำสั่งอนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากต้องลักษณะบุคคลต้องห้ามตามมาตรา 12(1),(7) และ (8) และทำการสืบสวนติดตามตัวจนกระทั่งพบตัวเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2560 จึงได้แจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ทราบ และกักตัวไว้เพื่อรอการผลักดันออกไปนอกราชอาณาจักรต่อไป อนึ่ง การแถลงข่าวนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะชน และขอฝากให้ประชาชนช่วยสังเกตชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยใกล้บ้านเรือนท่านหากพบพฤติกรรมไม่เหมือนนักท่องเที่ยวหรือไม่มีงานทำแน่นอน หรือน่าสงสัย ขอให้แจ้งข้อมูลสายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1178 หรือ www.immigration.go.th