วันที่ 6 ตุลาคม 2560 เวลา 15.00 น. พลตำรวจตรี รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการ ปปง. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (คณะกรรมการ ปปง.) ว่า จัดการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (คณะกรรมการ ปปง.) ครั้งที่ 8/2560 มีวาระการประชุมที่สำคัญ 2 วาระ คือ 1.การคัดเลือกประธานคณะกรรมการ ปปง. คนใหม่ จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 38/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ยกเลิกความในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 ให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า คณะกรรมการ ปปง. ประกอบด้วย (1) ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เป็นกรรมการ (2) ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นกรรมการ (3) เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ นั้น ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จำนวน 4 คน มีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 38/2560 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ปปง. ประกอบด้วย 1.พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล 2. นายประยงค์ ปรียาจิตต์ 3. นายประสงค์ พูนธเนศ 4. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ โดยในที่ประชุมคณะกรรมการ ปปง. ในวันนี้ ได้มีมติเลือก พลตำรวจเอก ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และมีมติเลือก นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เป็นรองประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจะมีวาระในการดำรงตำแหน่ง 4 ปี 2. การเสนอชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการธุรกรรม เนื่องจากในการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ครั้งที่ 13/2560 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ได้มีมติเห็นชอบให้นายอธิคม อินทุภูติ กลับเข้ารับตำแหน่งข้าราชการตุลาการ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2560 ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการธุรกรรมเป็นงานที่มีลักษณะที่อาจขัดหรือแย้งต่อการปฏิบัติหน้าที่หลักของข้าราชการตุลาการ ดังนั้น นายอธิคม อินทุภูติ จึงได้มีหนังสือที่ ศย 005/39906 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ขอลาออกจากการเป็นกรรมการธุรกรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2560 ต่อมา คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมได้เสนอชื่อนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมแล้วว่าเป็นบุคคลที่ซื่อสัตย์สุจริตและมีความรู้ความสามารถอันจะยังประโยชน์แก่การปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของการเป็นกรรมการธุรกรรมตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 สำนักงาน ปปง. จึงเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ปปง. ในการประชุมครั้งที่ 8/2560 วันที่ 6 ตุลาคม 2560 เพื่อพิจารณาแต่งตั้งนายสราวุธ เบญจกุล เป็นกรรมการธุรกรรมแทนตำแหน่งที่ว่างลง