เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย สำหรับงาน ฮ่องกง ไซโคลธอน 2017 ที่จัดขึ้นอย่างอลังการ ด้วยการการปิดเกาะเพื่อแข่งขันปั่นจักรยาน เพื่อให้นักปั่นจากทั่วโลกได้สัมผัสการปั่นจักรยานในเกาะฮ่องกงอันสวยงาม โดยมีนักปั่นแนวหน้าทั่วโลกเข้าร่วมแข่งรายการ UCI Class 1.1 road race ที่จัดขึ้นในประเทศฮ่องกงเป็นครั้งแรก อย่างมามากมาย โดยรายการ UCI Class 1.1 road race รางวัลชนะเลิศสำหรับมืออาชีพเป็นของนายโมโฮริค มาเทจ์ ทีมอาหรับเอมิเรต เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 35 นาที 57 วินาที ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นของ นายฮักเกอร์ ร็อบบี้ ทีมออสเตรเลีย ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 36 นาที 7 วินาที และรองชนะเลิศอันดับสอง นายอาราชิโระ ยูกิยะ ทีมญี่ปุ่นด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 37 นาที 11 วินาที ด้าน นาย ธนิต เชยกีวงษ์ เจ้าของบริษัท บ็อคแมทท์ ทราเวลจำกัดบริษัทรับทำทัวร์ทั่วโลก ทัวร์ปั่นจักรยาน กล่าวถึงงานฮ่องกง ไซโคลธอน 2017 ว่ามีนักปั่นจักรยานชาวไทยมือสมัครเล่นเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ประมาณ 111 ราย แต่ที่จองมากับบริษัทประมาณ 80 ราย ซึ่งแต่ละคนที่มาเข้าร่วมงานดังกล่าวส่วนใหญ่จะชื่นชอบในกีฬาดังกล่าวอยู่แล้ว โดยทุกๆปีจะมีชาวไทยเข้าร่วมเป็นจำนวนมากเพิ่มขึ้นทุกๆปี ทั้งนี้ นายธนิต กล่าวว่า ด้วยการจัดการสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐานโลก ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย สะอาด และบรรยากาศที่สวยงามจึงทำให้ฮ่องกงไซโคลอน ได้รับความนิยมจากนักปั่นทั่วโลก ทั้งยุโรป ตะวันออกกลางและเอเชียด้วยกันเอง ในปีนี้เส้นทางที่ปั่น จะผ่านสะพานทั้งสามจุดของเก่ะฮ่องกงที่มีความสวยงามโดยสองในสามสะพาน คือ สะพานซิงหม่าและสะพานซิงซา ที่แขวนด้วยสลิงคล้ายสะพานแขวนในไทย แต่ต่างจากประเทศอื่นๆ ที่ใช้ข้ามฝั่งทะเลจากด้านเกาลูนไปยังเกาะฮ่องกง ซึ่งสะพานทั้งสองมีระยะทางที่ยาวทำให้นักปั่นสามารถชมวิวทะเลอย่างเต็มที่ ซึ่งช่วงปั่นจักรยานลอดอุโมงค์อีเกิ้ล เนสท์ จะสนุกและท้าทาย เพราะเป็นการปั่นเข้าอุโมงค์ที่เป็นเนินสูงขึ้นต่อเนื่อง ให้ความรู้สึกเหมือนขี่จักรยานไต่เขา จึงน่าจะถูกใจนักปั่นทั้งสองสาย คือ นักปั่นสายขึ้นเขา และนักปั่นสายทำความเร็ว ด้านนางสาว ณิชชา กาญจนอภิรักษ์ นักปั่นมือสมัครเล่น และเป็นหนึ่งในแอมบาสเดอร์ด้านการปั่นจักรยาน ซึ่งถูกคัดเลือกจากการท่องเที่ยวฮ่องกง ให้เป็นตัวแทนด้านการเผยแพร่กิจกรรมดังกล่าวส่งต่อสู่ชาวไทยทั้งประเทศ กล่าวว่า ในระยะทาง 50 กิโลเมตร ในเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีที่ปั่นครั้งนี้ประทับใจเป็นอย่างมาก และได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเพราะระยะทางจะผ่านทั้งทางด่วน สะพานแขวนที่ขึ้นชื่อของเกาะแห่งนี้ ขณะที่นายปุณณวิช สาคริก นักปั่นมือสมัครเล่น แอมบาสเดอร์ฝ่ายชายของไทยในงานนี้ กล่าวว่า การจัดการของทีมงานแข่งที่ฮ่องกงถือว่าดีกว่าเมืองไทย เนื่องจากมีระเบียบวินัยสูง และใช้ทีมงานดูแลมืออาชีพเยอะกว่า ดังนั้นหากคนไทยมาเที่ยวที่ฮ่องกง นอกจากมาเพื่อซื้อของหรือทานอาหารแล้ว ก็สามารถปั่นจักรยานได้