หนุ่มคนงานก่อสร้างจ้วงแทงเพื่อนคนงานดับหลังคนตายใช้มีดอีโต้ฟันหัวพี่ชายปางตาย เมื่อเวลา15.00 น.วันที่15 ต.ค.60 ร.ต.อ.วสันต์ แช่มมั่นคง รอง สว.สอบสวน สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในซอยหมู่บ้านร่วมเกื้อ8 แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่หน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง บริเวณกลางถนนพบศพนายพีรณัฐ ฉันทวิเศษกุล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 711 หมู่ 1 ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ในชุดกางเกงในบ๊อกเซอร์เพียงตัวเดียว มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ชายโครงด้านซ้าย 2 แผล ตัดขั้วหัวใจ คราบเลือดกระจายไปทั่วบริเวณกว่า 20 เมตร ใกล้เคียงกันพบอาวุธมีดอีโต้และมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายทนงศักดิ์ สุภะโกศล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่13/22 หมู่ 2 ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีบาดแผลถูกอาวุธมีดฟันที่ศีรษะ และราวนมด้านขวาอาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลราชพิพัฒน์เป็นการด่วน ส่วนมือมีดคือนายศานิจ พานทอง อายุ 31 ปี มีศักดิ์เป็นน้องชายของนายทนงศักดิ์ ได้ตามไปดูอาการของพี่ชายอย่างใกล้ชิด และยอมมอบตัวกับตำรวจในอาการเมามาย สอบสวน น.ส.สุนันทา สียางนอก อายุ19ปี คนงานก่อสร้าง ให้การว่าพวกตนทั้งหมดเป็นคนงานก่อสร้างที่ผู้รับเหมาจ้างให้มาสร้างบ้านเดี่ยวที่อยู่ติดกับแคมป์พักคนงาน ก่อนเกิดเหตุ นายพีรณัฐได้ยืมเงินเพื่อนคนงานด้วยกันมาได้1,000 บาท ซื้อเหล้ามานั่งดื่มกินกับนายศานิจ ที่หน้าห้องตั้งแต่ 08.00 น.ลากยาวมาจนถึงช่วง 13.00 น.จนทั้งคู่มีอาการเมาสาหัส ส่วนนายทนงศักดิ์นอนพักผ่อนอยู่ในห้องพักใกล้กัน ซึ่งนายทนงศักดิ์ เห็นว่าน้องชายตัวเองเริ่มมีอาการเมา จึงเรียกให้เข้ามานอนพักผ่อนด้วยกัน แต่นายศานิจ ยังคงนั่งดื่มต่อไป จนนายทนงศักดิ์ โมโหตะโกนด่าน้องชายไปว่า "ไอ้ควาย" ซึ่งนายพีรณัฐ คิดว่าตัวเองถูกด่า จึงเข้าไปในห้องคว้ามีดอีโต้ทำครัววิ่งเข้าไปในห้องของนายทนงศักดิ์ แล้วใช้มีดฟันเข้าที่ศีรษะ และใต้ราวนมขวาขณะที่นายทนงศักดิ์นอนหลับอยู่ หลังจากนั้นก็เกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเป็นวงกว้างจนทำให้เลือดกระจายไปทั่ว เมื่อนายศานิจ ตั้งสติได้และเห็นพี่ชายถูกทำร้ายจึงเข้าไปในห้องหยิบมีดปอกผลไม้ออกมาแทงนายพีรณัฐ จำนวน 2 ครั้ง จมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ น.ส.สุนันทา ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับนายพีรณัฐ ชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ข่มพวกคนงานด้วยกัน และชอบคุยโม้ว่าตัวเองติดคุกมา7ปี ข้อหาพยายามฆ่า เพิ่งออกจากคุกมาเมื่อปี51 และชอบใช้เพื่อนร่วมงานเหมือนเป็นลูกน้อง ซึ่งหลายคนก็ยอมทำตามเพราะไม่อยากมีเรื่อง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าผู้ตายคงคิดว่าจะฆ่านายทนงศักดิ์ให้ตาย แต่โชคดีที่มีน้องชายช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหานายศานิจฆ่าคนตายโดยเจตนานำตัวดำเนินคดีต่อไป