"วิรัตน์"ยกคดี "เบญจา"เป็นอุทธาหรณ์ นักการเมือง ข้าราชการ ชี้ อย่าเห็นแก่เงินในกระเป๋ามากกว่าผลประโยชน์ชาติ ติดคุกไปไม่คุ้ม วันที่ 20 ต.ค.นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำพิพากษาจำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง(สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 83 กรณีร่วมกันออกคำวินิจฉัยให้นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรและบุตรีของนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องเสียภาษีจากการซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัท ชินคอร์ปฯ) ในราคาพาร์ 1 บาท จากบริษัท Ample Rich Investment ว่าเรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับนักการเมืองและข้าราชการ การที่นักการเมืองทำงานโดยไม่ยึดถือหลักกฎหมาย ไม่ยึดถือหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทำตามความต้องการของนายทุน นายเงินสุดท้ายผลก็จะกลายเป็นแบบนางเบญจา นายวัริตน์กล่าวต่อว่าในส่วนของข้าราชการ ถ้าหากขายอุดมการณ์ ไม่ได้ทำตามคำปฏิญาณว่าจะซื่อสัตย์ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไปรับใช้นายทุนสามาณย์ ผลสุดท้ายนายทุนก็หนี ข้าราชการก็เป็นคนติดคุก ถือว่าเป็นอุธทาหรณ์ ต่อจากนี้ตนก็ขอให้ข้าราชการไปยึดถือในหลัก ในกฎเกณฑ์ ยึดผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดถือในเงินที่นายทุนมอบให้เป็นหลัก เพราะสุดท้ายแล้วได้เงินมาเท่าไรแต่ก็ต้องติดคุกก็คงจะไม่คุ้ม โดยเฉพาะคนรุ่นนี้ถ้าติดคุกก็อาจจะตายในคุก ก็คงไม่คุ้มกัน ส่วนเรื่องการตอบแทนบุญคุณโดยเอาผลประโยชน์ตอบแทนนั้นก็ยิ่งทำไม่ได้ โดยจะผิดกฎหมายว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของรัฐด้วย