วันที่ 23 ต.ค.60 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกฯ กล่าวในรายการต้องถาม ทางสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ ว่า ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เราได้เห็นภาพความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนคนไทยอีกครั้งหนึ่งในฐานะพสกนิกร แสดงให้เห็นว่า ที่คนชอบพูดว่าประเทศไทยเป็นสังคมที่แตกแยกแบ่งขั้ว แต่เมื่อมีศูนย์รวมจิตใจเราก็จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฉะนั้นตลอดเดือนนี้เราจะเห็นประชาชนไม่เลือกข้างเลือกสีหรือเลือกอะไรทั้งสิ้น แต่นับตัวเองเป็นพสกนิกรชาวไทยซึ่งต้องการที่จะแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่9 ดังนั้นเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า หลายเรื่อง ที่เราสามารถมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่าส่วนนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการปรองดองหรือไม่นั้น ตนเห็นว่า หากเราจะน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมไปถึงการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสในหลายต่อหลายโอกาสที่พระองค์ทรงพระราชทานให้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฏเกณฑ์กติกา การรู้หน้าที่โดยทำหน้าที่นั้นเต็มกำลังสามารถ และปรัชญาความพอเพียง เราก็สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้ เพราะทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราสุดโต่ง ใช้เรื่องของอารมณ์ รวมทั้งไม่มีขอบเขต อีกทั้งเมื่อไปสู่ประเด็นที่มีความเห็นแตกต่างในเรื่องการเมือง อย่างไรก็ต้องมีความเห็นต่าง จึงอยู่ที่ว่าเรารู้จักที่จะใช้ชีวิตบนความแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้น สวนตัวมองว่าปัญหาการความปรองดอง ควรที่จะให้ความสำคัญต่อกติกาในการอยู่ร่วมกัน มากกว่าที่จะไปมองเรื่องจุดสุดท้าย เช่น เรื่องการนิรโทษกรรม เมื่อถามว่าหลังงานพระราชพิธีฯแล้ว คสช.ควรคิดต่อไปอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)คงมีแผนพิจารณาในหลายเรื่อง สิ่งสำคัญก็คือ ทำอย่างไรที่จะดำเนินการต่อด้วยการยึดมั่นในปรัชญาและแนวทางที่พระองค์ท่านได้พระราชทานไว้ หากทำในสิ่งที่ประชาชนคนไทยมีความเป็นหนึ่งเดียว และใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการนำสังคมส่วนรวมไปข้างหน้า ตนก็เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย