พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคตผ่านครบ ๑ ปี หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน จัดทำหนังสือพิมพ์รายวันฉบับพิเศษ จำนวน ๑๒ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๘-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อร่วมแสดงความอาลัย ตอนที่ ๕ พสกนิกรอาลัยทั่วแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรตลอดรัชกาลของพระองค์ เมื่อเสด็จสวรรคต พสกนิกรเศร้าโศกโทมนัส อาลัยนอกจากหลั่งไหลกันเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ ให้ได้สักครั้งในชีวิตแล้วบางคนยังเดินทางมากราบสักการะมากกว่า 100 ครั้ง อีกทั้งยังเกิดการแสดงพลังความรักความอาลัยแด่พระองค์ท่านในรูปแบบต่างๆทั้งแปรอักษร ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา และปลูกต้นดาวเรือง เป็นปรากฏการณ์ที่ "สยามรัฐ" ร่วมบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์
ประชาชนจากทั่วสารทิศเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันที่ 28 ตุลาคม 2559 เวลา 13.00 น. เป็นวันแรกที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมโกศ แต่ประชาชนที่มารอนั้นมีเป็นจำนวนมากจึงทำให้การต่อแถวเพื่อเข้าไปกราบพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ต้องมีแถวยาวออกมานอกท้องสนามหลวง ทุกคนที่มาส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยล้วนแต่งกายด้วยชุดสีดำ รองเท้าหุ้มส้น นักเรียน นิสิต นักศึกษาก็แต่งกายมาด้วยชุดที่ถูกระเบียบของสถาบัน ภายในวันแรกเป็นไปด้วยความแออัดจากพสกนิกรที่หลั่งไหลกันมาเพื่อมุ่งหน้ามายังที่พระบรมมหาราชวัง เพื่อที่จะเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพของพระองค์ท่านอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ท้องสนามหลวงเนืองแน่นไปด้วยสีดำ และเสียงร่ำไห้สะอื้นดังระงมไปทั่วพระบรมมหาราชวัง ทุกคนต่างยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียของพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนทั้งชาติได้ บรรยากาศรายรอบจึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งรินไหลออกมา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบุคคลจิตอาสาจากทั่วประเทศมาร่วมตั้งเต็นท์ร่วมใจทำความดีเพื่อพ่อหลวง ที่โดยรอบบริเวณท้องสนามหลวง โดยมีการทำอาหารแจกผู้คนที่มาเข้าแถวรอเพื่อที่จะเข้าไปกราบพระบรมศพ บ้างก็แจกน้ำแจกขนมหรือของอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มาสักการะในหลวงรัชกาลที่ 9 บริษัทห้างร้านต่างนำสินค้าและบริการของตนเองมาตั้งซุ้มแจกประชาชน อีกทั้งหน่วยงานราชการก็มีการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลืออีกด้วย และยังมีหน่วยแพทย์พระราชทานมาตั้งเต็นท์ดูแลรักษาคนที่มาขณะป่วยหรือไม่สบาย ซึ่งตั้งไว้ตลอด 24 ชั่วโมงนอกจากนี้ยังมีกลุ่มเด็กดีจิตอาสา นักเรียน นิสิต นักศึกษายังร่วมใจกันเดินเก็บขยะตามท้องถนนรอบบริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณโดยรอบเขตพระบรมมหาราชวังอีกด้วย อีกทั้งยังมีคนไทยอีกหลายคนซื้อของอุปโภคบริโภคตามเท่าจำนวนทรัพย์ที่มีมาแจกผู้คนรอบๆ บริเวณนั้นอีกด้วย ความจนหรือความรวยไม่ได้บ่งบอกถึงค่าของคน แต่ทุกคนที่มาเป็นจิตอาสานั้น ล้วนรวยน้ำใจซึ่งทุกคนตั้งปณิธานที่ตั้งใจจะทำความดีเพื่อพ่อหลวงเหมือนกันทุกคน ทำให้เห็นภาพความรวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนทุกคน ที่ช่วยเหลือกันโดยไม่ต้องการผลตอบแทน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ได้เห็นทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน บรรยากาศประชาชนเข้าแถวรอคิวรอบบริเวณท้องสนามหลวงและพระบรมมหาราชวังล้วนเป็นไปด้วยความโศกเศร้า แต่ทุกคนที่มาก็มาด้วยหัวใจที่รักในหลวงรัชกาลที่9 อย่างแท้จริง ทุกคนไม่มีความย่อท้อต่อการรอคอยที่จะเข้าไปกราบพระบรมศพ ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพราะทุกคนล้วนมีความตั้งใจที่จะมากราบสักการะพระบรมศพพระองค์ท่านอยู่แล้ว แม้ว่าระยะทางที่มาจะไกลเท่าไหร่ก็ไม่เป็นอุปสรรค หรือแม้แต่บางคนที่ร่างกายไม่เหมือนคนปกติ แต่ก็มาด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักพ่อหลวง ระยะแถวแห่งการรอคอยค่อนข้างยาวมาก แต่ทุกคนก็ตั้งใจที่จะเข้าไปให้ถึง แม้จะต้องใช้เวลารอข้ามวันข้ามคืน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเข้าไปยังพระบรมมหาราชวังให้ได้ เพื่อมีวัตถุประสงค์แค่เพียงสิ่งเดียวนั่นคือ เข้าไปกราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้ได้ ความรู้สึกของผู้คนที่เดินทางมายังพระบรมมหาราชวังนั้น ล้วนแต่มีสิ่งที่เหมือนกันนั่นคือครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้เข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ ของพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย อย่างน้อยๆ ก็เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อแผ่นดินและบ้านเมือง แม้บางคนจะไม่สบายขณะต่อแถวรอคิวแต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค ไม่มีใครสักคนเดียวที่บ่นว่าเหนื่อย บ่นว่าท้อ หรืออยากกลับบ้าน ทุกคนล้วนรู้ดีอยู่ในจิตใจอยู่แล้วว่าพระองค์ท่านทรงเหนื่อยและลำบากกว่าประชาชนทุกคนเป็นอย่างมาก พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปยังทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทรงเดินทางเข้าไปถึงถิ่นทุรกันดาร พระองค์เจออุปสรรคและความลำบากเป็นอย่างมาก แต่พระองค์ท่านก็ไม่ทรงตรัสว่าเหนื่อยหรือท้อมีแต่จะสร้างความสุขอำนวยความเจริญให้แก่ประชาชนทุกคน ให้พสกนิกรของพระองค์ทุกคนพ้นจากความทุกข์จากที่ไม่มีบ้านก็ได้มี จากที่ไม่มีถนนก็บันดาลให้ถนนได้เกิดขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ประชาชนทุกคนจึงรักพระองค์ท่าน ด้วยใจที่เปี่ยมล้นเพราะพระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีทศพิธราชธรรมอย่างแท้จริง เมื่อเวลาเดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย วันที่ 5 ตุลาคม2560 เวลา 24.00 น. ที่สำนักพระราชวังเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพ จากวันแรก 28 ตุลาคม2559 สรุปจำนวนประชาชนเข้ากราบพระบรมศพประจำวัน ทั้งหมด 337 วัน รวมประชาชนมาทั้งสิ้น 12,739,531 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลรวม 337 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 889,545,100.01 บาท ประชาชนก็ยังคงแต่งกายไว้ทุกข์สีดำสุภาพเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ประชาชนชาวไทยทุกคนที่ต่างหลั่งไหลมาจากทั่วประเทศ เพื่อมายังพระบรมมหาราชวังกับการที่จะเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ ทุกคนต่างมีสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกันที่จะมากราบท่านเป็นครั้งสุดท้าย และทำความดีเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพื่อตอบแทนความดี ที่พระองค์ท่านทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ ในครั้งนี้คงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้แล้วว่าประชาชนทุกคนที่ต่างมายังพระบรมมหาราชวังนั้นรักในหลวงรัชกาลที่ 9 มากขนาดไหน สุดท้ายนี้ทุกคนที่มาก็จะนำคำสอนไปปรับใช้ในการดำรงชีวิต และเอาพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง เพื่อเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ทั้งในส่วนของการตั้งมั่นในทศพิธราชธรรม และหลักการทรงงานในเรื่องต่างๆ ของพระองค์สืบต่อไป แต่หลังจากที่ทางสำนักพระราชวังประกาศปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังแล้ว ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งซุ้ม ที่บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน โดยเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ตลอด 24 ชม.ประชาชนยังหลั่งไหลนำพวงมาลัยและดอกไม้สดมากราบสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นจำนวนมาก
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตมวาร (7 วัน) /ปัณรสมวาร (15 วัน) / ปัญญาสมวาร (50 วัน) /สตมวาร (100 วัน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตมวาร ถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ, พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์, พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ รวมทั้งคุณพลอยไพลิน เจนเซน และคุณสิริกิติยา เจนเซน ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตมวาร7 วัน ถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
ประชาชนจิตอาสาฯ ร่วมปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน ที่มากราบถวายสักการะพระบรมศพ
หลังจากที่สำนักพระราชวังได้ให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ทำให้มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเพื่อถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เป็นจำนวนมาก อีกมุมหนึ่งยังมีผู้ที่มีจิตอาสาจากหลายหน่วยงาน เช่น องค์กรต่างๆภาครัฐและเอกชน รวมถึงนิสิต นักศึกษาและประชาชน ที่นำอาหาร น้ำดื่ม ไอศกรีม ขนม ลูกอมยาดม มาแจกจ่ายให้กับประชาชน และมีนักเรียนถือถุงดำบริการให้ทิ้งขยะอีกทั้งยังมีกลุ่มจิตอาสาที่คอยให้บริการรถจักรยานยนต์เพื่อรับ-ส่งประชาชนที่มาร่วมงานในบริเวณใกล้เคียงท้องสนามหลวงด้วย อีกทั้งยังมี ประชาชนจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ ได้มาร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการประชาชนที่มากราบถวายสักการะพระบรมศพ จำนวน 156 คน ซึ่งได้เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ในจุดต่างๆ ได้แก่ การให้บริการน้ำดื่ม และแจกจ่ายน้ำดื่มแก่ประชาชนในแถวที่มาเข้าคิวรอ ทำการซ่อมร่มที่ชำรุดเพื่อให้ใช้การได้ บริการเข็นรถแก่ผู้ทุพพลภาพและผู้สูงอายุ ช่วยบรรจุและทำขนมปังเค้กกล้วยหอม และช่วยทำครัว ประกอบอาหารในโรงครัว ทุกคนต่างมุ่งมั่นในการมาทำความดีในครั้งนี้ ถึงแม้อากาศจะร้อนอบอ้าวและมีฝนตกในช่วงบ่าย ก็ไม่ย่อท้อ ต่างกล่าวว่า ต้องการตอบแทน ร.9 และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ ร.10 ที่ให้ได้มีโอกาสมาปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้
เตรียมความพร้อม งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง พระมหากรุณาธิคุณ ของพระบรมชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ ได้ทรงเล็งเห็น และทรงรับรู้จากพระราชหฤทัยของพระองค์ถึงพลังแห่งคุณค่าของความรัก ความศรัทธาเทิดทูนและความจงรักภักดี ที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า น้อมเกล้าน้อมถวายแด่พระองค์ท่านซึ่งทรงประจักษ์ความต่อสายพระเนตรพระกรรณมาโดยตลอด ถึงพลังน้ำใจ พลังความรัก อันประเสริฐสุดของท่านทั้งหลาย นับตั้งแต่วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ตราบจนทุกวันนี้ และเพื่อทรงสนองตอบต่อความรัก และน้ำใจอันประเสริฐสุดของท่านทั้งหลาย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมแสดงความอาลัยรัก น้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในห้วงเดือนตุลาคม ศกนี้ และเพื่อเป็นการสานต่อพระราชดำริโครงการจิตอาสา "เราทำความดี ด้วยหัวใจ" ซึ่งเป็นโครงการทำความดีร่วมกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมาโดยตลอดเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของท่านทั้งหลายอยู่แล้วนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระราชานุญาตให้ จัดตั้ง "จิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ" ขึ้น เพื่อเป็นการรวมพลังความรักอันมีค่า รวมพลังน้ำใจ ของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่จะน้อมถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในการนี้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เทศกิจ และประชาชนจิตอาสา ร่วมมือร่วมใจด้วยการทำความสะอาดพื้นที่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังและพื้นที่ท้องสนามหลวง เพื่อเตรียมความพร้อมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่จะจัดขึ้น ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
พิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
กึกก้องทั้งแผ่นดิน! พสกนิกรชาวไทยรวมใจ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีถวายพ่อหลวง จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ประชาชนเต็มพื้นที่ท้องสนามหลวง
พสกนิกรไทยเต็มทุกพื้นที่ของท้องสนามหลวง เพื่อร่วมร้องเพลง "สรรเสริญพระบารมี" เป็นการบันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ ความผูกพัน และความอาลัย ของพสกนิกรที่แสดงถึงความจงรักภักดีทุกหมู่เหล่าที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งการรวมพลังครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญที่ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล และทีมงาน จัดขึ้นเพื่อบันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ ความ ผูกพัน และความอาลัย ของประชาชนผู้จงรักภักดีทุกหมู่เหล่า จัดทำเป็นภาพยนตร์และวีดิทัศน์สำหรับฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ และสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยการถ่ายทำภาพยนตร์นี้ จะเป็นการบันทึกเสียงเพลงที่ประชาชนขับร้องสด ร่วมกับวงดนตรี Siam Philharmonic Orchestra และคอรัส 100 คน โดยมี อ.สมเถา สุจริตกุล เป็นผู้ควบคุมการบรรเลง และทีมงาน ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ การรวมพลังร้องเพลง "สรรเสริญพระบารมี" ณ บริเวณถนนหน้าพระลาน กำแพงพระบรมมหาราชวัง และท้องสนามหลวงเพื่อร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
กลุ่มชาติพันธุ์ 41 ชนเผ่า กราบถวายบังคม พระบรมศพพ่อหลวง
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อชาวเขาเผ่าต่างๆ อาทิ ชนเผ่า คะฉิ่น ม้ง กะเหรี่ยง อาข่า ปะหล่อง ปะโอ ฯลฯ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่และลูกจ้างมูลนิธิโครงการหลวงของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวนหลายพันคน ร่วมใจกันเดินทางมาเพื่อ กราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหา ราชวัง ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทาน "โครงการหลวง" จนทำให้มีรายได้ที่มั่นคงจากการปลูกพืชเมืองหนาว และมีการคมนาคมที่ดีขึ้น รวมไปถึงมีหน่วยงานราชการเกิดขึ้นบนพื้นที่สูงทำให้ชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ต่างไปจากเดิม
วังช้างกรุงเก่าแปรขบวนแสดงความอาลัยในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยมี พลายวัง นำหน้าขบวนเพื่ออัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ กับพระเศวตอดุลยเดชพาหลฯ ซึ่งเป็นพระยาช้างเผือกประจำ รัชกาล ซึ่งช้างทั้งหมดใส่เครื่องแต่งกาย คชาภรณ์สีดำ
แม้ในวันนั้นสายฝนจะไม่เป็นใจสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่อาจต้านทานใจที่มุ่งมั่นของเหล่าขบวนคชสารงางามได้ เหล่าช้างเผือกคู่แผ่นดิน 11 เชือกได้แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดช้างศึกเต็มยศมาพร้อมกับควาญช้างในชุดขุนศึกโบราณ จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อที่จะเข้ามาร่วมแสดงความอาลัยและถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เดินขบวนมาด้วยท่าทางที่ดูสง่างาม แสดงการหมอบกราบด้วยท่าทีอ่อนน้อมและแสดงความเคารพอย่างสูงสุด ควาญช้างได้ฝึกช้างทั้ง 11 เชือกมาในเวลาแค่เพียง 10 วัน โดยมีความตั้งใจจะมา ถวายสักการะในหลวงรัชกาลที่ 9 หน้าบริเวณพระบรมมหาราชวัง ด้วยการเดินขบวนได้อย่างสมพระเกียรติมากที่สุด หลังจากที่เหล่าคชสารได้เริ่มเดินขบวนฝนที่ตกกระหน่ำอยู่นั้น ก็ได้หยุดลง ฟ้าที่มืดครึ้มก็มีท่าทีสว่างขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างมากเลยทีเดียว ในการแสดงการเดินขบวนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่ตื่นตาของเหล่าผู้คนจำนวนมากที่ได้มาชม ได้เห็นถึงการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อช้าง ได้ทรงออกกฎหมายเพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองช้างอย่างนับไม่ถ้วนถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งที่ตรึงตาตรึงใจได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวที่ได้ เห็นขบวนคชสารคู่แผ่นดินทั้ง 11 เชือกที่แสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และบ้านเมืองเฉกเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน
ทั่วประเทศแปรอักษร แสดงความไว้อาลัย 'ในหลวง ร.9'
พสกนิกรจากทั่วประเทศ และหน่วยงานราชการทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมร้อยดวงใจกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อร่วมกันแสดงความรักและแสดงความอาลัย โดยได้ทำการแปรอักษรเป็นเลข "9" และข้อความต่างๆ รวมถึงแปรพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เพื่อแสดงความอาลัยน้อมเกล้าฯ ถวาย "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช"และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีต่อประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า นอกจากนี้ยังได้พร้อมใจกันร้องประสานเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีอีกด้วย
'ดาวเรือง' บานสะพรั่งทั่วแผ่นดิน ศูนย์รวมความรักของคนไทย
กระทรวงมหาดไทย ออกประกาศเชิญชวนประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ร่วมกันปลูกดาวเรือง หรือ ดอกไม้ที่มีสีเหลือง ช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 สำหรับประวัติความเป็นมาของ "ดอกดาวเรือง" ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงนำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อ พ.ศ.2510 พระองค์ท่านทรงโปรด เพราะสีสวย ปลูกง่าย คงทน ฯลฯ ทรงให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทดลองปลูกและขยายสายพันธุ์ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนนำไปปลูกโดยในความเชื่อของคนไทย เชื่อว่า "สีเหลือง" หมายถึง "ทอง" ถ้าปลูกไว้หน้าบ้านจะนำความเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยมาให้ผู้ปลูก "ดอกดาวเรือง" จึงเปรียบเสมือนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 "พ่อหลวงของปวงชนทั้งประเทศ" ที่นำความสุข ความเจริญ ความรักสามัคคี อยู่ดีกินดี มาสู่ประเทศไทย "ดอกดาวเรือง" จึงเป็นตัวแทน "พ่อหลวง" ของคนไทยทั้งประเทศ ประชาชนทั่วสารทิศ จึงร่วมใจกันปลูกต้นดาวเรืองให้ออกดอกบานเหลืองสะพรั่งทั้งแผ่นดิน แสงดาวเรืองเรืองสะพรั่งเต็มทั้งหล้า ส่งเสด็จจอมฟ้าคืนสวรรค์ อภิวาทบาทบงสุ์พระทรงธรรม ผู้นิรันดร์ ณ บุรินทร์แผ่นดินไทย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม (นางสาวมะณีรัตน์ รักเพื่อน ร้อยกรอง) ตอนที่ ๖ พระปัญญาธิคุณ ผลสำเร็จเพื่อมนุษยชาติ ติดตามวันพรุ่งนี้... Download:: สยามรัฐรายวันฉบับพิเศษ ตอนที่ ๕ พสกนิกรอาลัยทั่วแผ่นดิน